Tom and Jerry ทอม แอนด์ เจอร์รี่

Tom and Jerry ทอม แอนด์ เจอร์รี่

เข้าฉาย 25 กุมภาพันธ์ 2564

ประเภท Animation, Adventure, Comedy

ผู้กำกับ Tim Story

นักแสดง Chloë Grace Moretz, Michael Peña, Rob Delaney

เรื่องย่อ

หนึ่งในคู่กัดที่เป็นที่รักที่สุดในประวัติศาสตร์จะกลับมาอีกครั้ง! เมื่อ เจอร์รี่ ย้ายไปอยู่ที่โรงแรมที่หรูหราที่สุดในมหานครนิวยอร์ก ณ ช่วงเวลาที่กำลังจะมีพิธีการแต่งงานสำคัญ เป็นเหตุให้ผู้จัดงานจำเป็นต้องจ้าง ทอม มาเพื่อกำจัดเขาให้ออกไปให้พ้นตา เกิดเป็นสงครามระหว่างแมวกับหนูที่อาจทำลายอาชีพการงานของผู้จัดงานคนนั้น ไปจนถึงพิธีแต่งงาน และชื่อเสียงอันโด่งดังของโรงแรม แถมสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่เมื่อมีพนักงานอีกหนึ่งคนที่พยายามเข้ามาเติมเชื้อเพลิงให้กับความวุ่นวายระหว่างพวกเขา

Tom and Jerry ทอม แอนด์ เจอร์รี่

หนึ่งในการต่อสู้ในประวัติศาสตร์ที่ใครๆ ต่างหลงใหลจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อเจอร์รี่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในโรงแรมสุดหรูแห่งเมืองนิวยอร์คก่อน “วันแต่งงานแห่งศตวรรษ” ทำให้ผู้จัดอีเวนท์ต้องจ้างทอมมาช่วยจัดการกับเจอร์รี่ เรื่องราว “Tom & Jerry” กำกับฯ โดยทิม สตอรี่ สงครามระหว่างแมวกับหนูกำลังจะทำลายทั้งอาชีพของเธอ งานแต่ง และน่าจะรวมถึงโรงแรมด้วย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่า เมื่อพนักงานคนหนึ่งกำลังวางแผนที่จะจัดการทั้งสามออกไป

Tom & Jerry

ภาพยนตร์สร้างความตื่นตาด้วยการผสมผสานระหว่างภาพแอนิเมชั่นสุดคลาสสิคกับการแสดงไลฟ์แอ็คชั่น การผจญภัยบนจอยักษ์ครั้งใหม่ของทอมและเจอร์รี่มีการเดิมพันครั้งใหม่ และทำให้ตัวละครต้องพบเจอกับสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่าง… การสามัคคีกันเพื่อความอยู่รอด  

ภาพยนตร์เรื่อง “Tom and Jerry” นำแสดงโดยโคลอี้ เกรซ โมเร็ตซ์ (“Neighbors 2: Sorority Rising,” “The Addams Family”), ไมเคิล พีน่า (“Cesar Chavez,” “American Hustle,” “Ant-Man”), โคลิน จอสต์ (“How to be Single,” “Saturday Night Live”), ร็อบ ดีลานีย์ (“Deadpool 2,” “Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw”), พอลลาวี ชาร์ดา (“Lion”), จอร์แดน โบลเกอร์ (“Peaky Blinders”), แพทซี่ เฟอร์แรน (“Darkest Hour”), นิคกี้ แจม (ผลงานทางทีวี “Nicky Jam: El Ganador”), บ็อบบี้ แคนนาเวล (“The Irishman,” “Ant-Man and the Wasp”), ลิล เรล โฮเวอรี่ (ผลงานที่กำลังจะฉาย “Judas and the Black Messiah,” “The Angry Birds Movie 2”) และเค็น จอง (“Crazy Rich Asians,” “The Hangover,” “Transformers: Dark of the Moon”)

Tom and Jerry

ภาพยนตร์กำกับฯ โดย ทิม สตอรี่ (“Fantastic Four,” “Think Like a Man,” “Barbershop”) อำนวยการสร้างฯ โดย คริส เดอฟาเรีย (“The LEGO Movie 2,” “Ready Player One,” “Gravity”)

ผลงานจากบทฯ ของเควิน คอสเทลโล สร้างอิงจากตัวละครของวิลเลียม ฮานน่า และ โจเซฟ บาร์บีรา อำนวยการสร้างฯ โดย ทิม สตอรี่, อดัม กู้ดแมน, สตีเวน ฮาร์ดิง, แซม รีจิสเตอร์, เจสซี่ เออร์แมน และ อัลลิสัน แอ็บเบท ทีมงานฝ่ายสร้างสรรค์ ได้แก่ ผู้กำกับภาพ อลัน สจ๊วต ผู้ออกแบบฉาก เจมส์ แฮมบิดจ์ ผู้ลำดับภาพ ปีเตอร์ เอส. เอลเลียต และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย อลิสัน แม็คคอช ประพันธ์ดนตรีโดยคริสโตเฟอร์ เล็นเนิร์ตซ

ภาพยนตร์จาก A Warner Bros. Pictures และ Warner Animation Group นำเจอผลงานจาก a Tim Story Film เรื่อง “Tom & Jerry” จัดจำหน่ายโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์

www.TomAndJerryMovie.net

TomAndJerryMovie

เรื่องจริงที่ตลกในภาพยนตร์

  • ตั้งแต่นักแสดงอย่างทอมและเจอร์รี่ ไปจนถึงตัวประกอบสำคัญ เช่น ปลา ผีเสื้อ และช้าง สัตว์ทุกตัวที่มารวมอยู่ในหนังเรื่องใหม่ Tom and Jerry ล้วนเป็นภาพเคลื่อนไหวและอาศัยอยู่ในโลกของไลฟ์แอ็คชั่น  
  • เพื่อเป็นการช่วยนักแสดงมนุษย์ในเรื่อง Tom and Jerry ต้องแสดงกับเพื่อนนักแสดงที่เป็นภาพเคลื่อนไหว จึงมีการจ้างคนเชิดหุ่นเข้ามาแสดงแทนพวกเขา ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยได้มาก ยกเว้นเรื่องที่คนเชิดหุ่นเจอร์รี่กลับชื่อทอม! ทำให้เกิดความสับสนในการแสดงพอควร ผู้สร้างภาพยนตร์พยายามล่าหาตัวคนเชิดหุ่นชื่อเจอร์รี่แล้ว แต่โชคร้ายที่หาไม่ได้
  • ภาพยนตร์เรื่อง Tom and Jerry เป็นหนังเรื่องยาวเรื่องแรกของคู่หูหนูและแมวชื่อดัง มีการผสมผสานทั้งแอนิเมชั่นกับไลฟ์แอ็คชั่น
  • ในเรื่อง Tom and Jerry เสียงกรี๊ดอันเป็นเอกลักษณ์ของทอมมาจากซีรีส์แอนิเมชั่นต้นฉบับ ให้เสียงโดยผู้ร่วมสร้างตัวละคร วิลเลียม ฮานนา
  • กองถ่ายปิดกล้องเมื่อเดือนกันยายน 2019 ซึ่งเป็นเวลาเพียงไม่กี่เดือนก่อนเกิดโรคระบาด หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนหลังการถ่ายทำที่ลอนดอน ทีมงานต้องรีบเร่งมือตามตารางเวลาที่มีเหลือน้อยกว่า 3 วัน

ข้อมูลจริงในเรื่องต่างๆ

  • ผู้ชมพบกับทอมและเจอร์รี่บนจอยักษ์ครั้งแรกในการ์ตูนของ MGM เรื่อง Puss Gets the Boot ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ได้เข้าชิงรางวัล Academy Award สาขา Best Short Subject: Cartoons จนเกิดเป็นเรื่องราวการต่อสู้ ความตลก และมิตรภาพที่ไม่มีวันสิ้นสุด ยังคงสร้างความสนุกสนานแฟนๆ ทั่วโลกต่อไป
  • นอกจากทอมและเจอร์รี่แล้ว การ์ตูนของ MGM เรื่อง Puss Gets the Boot ยังแนะนำอีกหลายตัวละครให้รู้จัก เช่น สไปค์ บุลด็อกเขี้ยวแหลมที่คอยดูแลความเรียบร้อย บุตช์ แมวข้างถนนศัตรูตลอดกาลของทอม และทูตส์แมวสาวแสนสวย ทั้งสามตัวละครคือสิ่งที่ทำให้เกิดความสนุกในหนังเรื่องใหม่ Tom and Jerry
  • การต่อสู้ของทอมและเจอร์รี่สร้างความตลกขบขัน และเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีวันรู้จบผ่านการ์ตูน 114 ตอนมแล้วในการฉายในผลงานต้นฉบับของพวกเขา และเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่กับเรามานาน มีการปรับเปลี่ยนหลากหลายรูปแบบระหว่างผลงานบนจอยักษ์และผลงานทางทีวี ผ่านซีรีส์และภาพยนตร์เรื่องใหม่ๆ มากมาย ก่อนจะมาปักหลักที่วอร์เนอร์ บราเดอร์สเมื่อปี 2001 เรื่องราวความตลกของทอมและเจอร์รี่ได้พัฒนาเป็นผลงานเรื่องสั้นของตัวเอง 250 เรื่อง… ซึ่งการไล่ล่ายังไม่จบเพียงเท่านี้! 
  • รวมแล้วการ์ตูน Tom and Jerry ได้เข้าชิงรางวัล Oscar 13 รางวัลในสาขาเรื่องสั้น ประเภทการ์ตูน และได้รับรางวัลมาครอง 7 รางวัล
  • ภาพยนตร์เรื่อง Tom and Jerry ภาคใหม่นี้เป็นผลงานแรกที่เป็นแอนิเมชั่น/ไลฟ์แอ็คชั่น โดยชื่อเรืองเป็นชื่อของทั้งคู่ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขามาเล่นแมวจับหนูร่วมกับเพื่อนนักแสดงมนุษย์ เจอร์รี่เคยปรากฎตัวในผลงานมิวสิคัลร่วมกับ จีน เคลลี่ ในภาพยนตร์เรื่อง Anchors Aweigh ต่อมาเขาและทอมด้ำน้ำในสระร่วมกับเอสเธอร์ วิลเลียม์ ในผลงาน Dangerous When Wet
  • เนื่องจากตัวละครมนุษย์ในการ์ตูนเป็นการมองจากมุมของทอมหรือเจอร์รี่ ทำให้ไม่ค่อยเห็นร่างกายท่อนบนสักเท่าไหร่
  • ทอมและเจอร์รี่เข้าใจภาษามนุษย์ สามารถอ่าน เขียน และพูดคุยได้.. แต่ว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ การสื่อสารและความตลกของพวกเขาส่วนใหญ่ออกมาทางท่าทาง และเป็นที่เข้าใจทั่วโลก 100%

รายละเอียดการถ่ายทำ

ศัตรูที่รักคู่หูคู่ร้าย!

                เจ้าหนูเจอร์รี่ผู้น่ารัก ฉลาด และมีความเจ้าเล่ห์ กำลังมีภารกิจหาบ้านหลังใหม่ที่เพอร์เฟ็กต์เหมาะกับตัวเขาในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ค ระหว่างทางเขาเกิดเสียหลักไปโดนแมวนักเปียโนจอมขี้โกงอย่างทอม ระหว่างที่เขากำลังสร้างความสนุกสนานเพื่อแลกกับเงินไม่กี่เหรียญในเซนทรัลพาร์ค จากสถานการณ์เลวร้ายนี้ทำให้ทอมต้องตกงาน ไร้เปียโน ไร้เงินที่เขาสะสมรวบรวมเอาไว้

หลังจากสร้างความเดือดให้เจ้าแมวแล้ว เจอร์รี่ได้พาตัวเองเข้ามาอยู่ในโรงแรมสุดหรูของเมืองอย่างที่ Royal Gate ทำตัวให้ดูเข้ากับสถานที่สุดหรู ใกล้ชิดกับบรรดาเจ้าหน้าที่ซึ่งรวมถึงผู้จัดงานอีเวนท์ที่เพิ่งได้รับการว่าจ้างเข้ามาใหม่อย่างเคย์ล่า  เธอแอบโกหกเรื่องใบประกาศแต่ก็หวังว่าจะเกาะงานนี้เอาไว้ได้ โดยการจ้างผู้ชำนาญการล่าหนูอย่างทอม สำหรับทอมแล้วนี่ถือเป็นการล้างแค้นส่วนตัวของเขา เขามีเวลาเพียงไม่กี่วันเพื่อกำจัดเจอร์รี่ กก่อนที่เจ้าของงานแต่งจะเข้ามาที่นี่… เพื่อกำจัดหนู!

ผู้กำกับฯ ทิม สตอรี่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำคู่หูสุดคลาสสิคมานำเสนอต่อผู้ชมภาพยนตร์รุ่นใหม่ “เมื่อเป็นเรื่องตลกระหว่างทอมกับเจอร์รี่ การไล่ล่าของพวกเขาคือสิ่งที่แสดงความตลกผ่านท่าทาง นับได้ว่าเป็นความอมตะเลย” เขากล่าว “สิ่งที่เราสร้างขึ้นมาในหนังเรื่องนี้คือการพาคู่หูแห่งประวัติศาสตร์ มาอยู่ในสถานที่ปกติที่มักพบได้อย่างเช่นบ้าน แต่เราพาให้มาอยู่ในบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ตอนนี้พวกเขาได้อยู่ในโรงแรมขนาดใหญ่ และมีมนุษย์จริงๆ หลายคน โดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดคุยอะไรกัน แต่ต้องมีการแสดงออกตอบโต้กันแน่นอน”

และต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายทั้งหลายนี้ “เราต้องยึดตามธรรมชาติของตัวละคร” สตอรี่ยืนยัน “โดยปกติแล้วพวกเขาวิงไล่กันไปทั่ว คอยตบตีกัน.. และทำอีกหลายอย่างแบบที่เราเห็นผ่านตัวละครทอมกับเจอร์รี่ การแสดงทั้งหมดของตัวละครจะต้องคงรักษาไว้แบบที่เราเคยคุ้นตากัน”

แฟนๆ ต่างรู้จักพวกเขากันดี แต่ผู้อำนวยการสร้างฯ คริส เดอฟาเรีย เล่าว่า “ผู้ชมจะได้เห็นทอมกับเจอร์รี่นุมมที่ผมคิดว่าไม่เคยมีใครเคยได้เห็นมาก่อน ภาพยนตร์มีการผสมผสานระหว่างแอนิเมชั่นคลาสสิค ที่ทำให้เราได้ใส่ฉากผาดโผนหลุดโลกและมีการเล่นกับมนุษย์ที่เป็นตัวการ์ตูนในต้นฉบับ แต่มาอยู่ในบรรยากาศของไลฟ์แอ็คชั่นบนโลกแห่งความเป็นจริง”

ในโลกแห่งความจริงนั้น โคลอี้ เกรซ โมเรตซ์ คือผู้มารับบทเคย์ล่า ที่ดูคล้ายทอมกับเจอร์รี่ในเรื่องการโกหกหลอกลวง นักแสดงหญิงเป็นแฟนของทั้งคู่มานานมากตั้งแต่เธอจำความได้ “ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กก่อนที่จะดูการ์ตูนรู้เรื่อง ฉันก็เริ่มดูทอมกับเจอร์รี่แล้วค่ะ พวกเขามีบางอย่างที่ดูน่าตลก พวกเขาเหมอืนกับ Three Stooges ที่ชอบตีกัน แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็คือเพื่อนซี้กันน่ะแหละ” เธอกล่าว “โดยปกติฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ฮานนา-บาร์เบร่าด้วยค่ะ ในฐานะของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่โตมากับพี่ชาย 4 คน เราก็มีการ์ตูนพวกนี้แหละที่อยู่กับเราตลอด”

ผู้เขียนบทฯ เควิน คอสเทลโล ผู้รับผิดชอบด้านการปลุกตัวละครแห่งตำนานขึ้นมามีชีวิตจริงเล่าว่า “การร่วมงานในเรื่อง ‘Tom and Jerry’ นับเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและน่ากลัวมากค่ะ มันมีเหตุผลที่ตัวละครเหล่านี้ยังได้รับความนิยมทั่วโลกในอีก 81 ปีต่อมา และผมก็ต้องให้เกียรติตัวละครด้วยความระมัดระวังมากด้วย ทอมกับเจอร์รี่ต้องเป็นตัวเองเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็น ไม่ใช่พยายามพูดให้เหมือนตัวเอง หรือทำตัวไร้สาระ ตบตี หรือใช้ความรุนแรงแบบนั้น ผมสนุกกับการดูเรื่องสั้นเก่าๆ พยายามแตกรายละเอียดทุกอย่างของตัวละครออกมา และหาองค์ประกอบที่ทำให้เกิดความคลาสสิคที่ทำให้นึกถึงความคุ้นเคยเก่าๆ ในรูปแบบใหม่”

นักแสดงอย่างไมเคิล พีน่าเป็นแฟนมาอย่างยาวนาน พอๆ กับที่เขาเคยผ่านความสนุกกับเรื่องนี้มาก่อน “ผมโตมากับทอมและจเอร์รี่ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ผมได้มาอยู่ในหนังเรื่องเดียวกับพวกเขา” เขากล่าว “ยิ่งกว่านั้นคือลูกชายของผมและลูกของพี่ชายที่ดูการ์ตูน อดใจรอดูหนังเรื่องนี้ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”

                ระหว่างการสร้างหนังด้วยสื่อกลางใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบแอนิเมชั่นหรือไลฟ์แอ็คชั่น มักจะมีความท้าทายของตัวมันเองเสมอ สตอรี่เล่าว่าเพื่อมอบความตื่นเต้นให้แฟนๆ ทั่วโลก ผู้สร้างภาพยนตร์ฯ ตัดสินใจที่จะ “รักษารูปร่างหน้าตาและความรู้สึกของทอมกับเจอร์รี่แบบต้นฉบับเอาไว้ รักษาทุกอย่างที่ดูสมจริงในแบบพวกเขาจากโลก 2 มิติ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องปรับภาพพวกเขาให้เหมาะกับรูปแบบ 3 มิติของเราด้วย ใครบ้างไม่อยากเดินไปไหนมาไหนกับทอมและเจอร์รี่ในชีวิตจริง?”

เราจะจ้างบริษัทกำจัดก็ได้ หรือจะใช้วิธีล่าเหยื่อที่มีมานานนับล้านปี…”

~เคย์ลา

นักแสดงและตัวละครต่างๆ

ไม่ว่าคุณจะเชียร์ทอมหรือเจอร์รี่ก็ตาม โอกาสนั้นอยู่ในช่วง 80 ปีที่ทั้งคู่สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมทุกยุกสมัย คุณต้องเลือกฝั่งแล้วล่ะ

                “พวกเขาตลกดีค่ะ” เดอฟาเรียกล่าว “ความตลกรวมถึงเวลาที่พวกเขาอยู่ในการ์ตูนด้วย มุกตลกที่ตามไล่ตบตีกันมีความเป็นอมตะ เพราะมันใช้ได้ผลกับทุกครอบครัว ใครๆ ก็มีความสุขกับมันได้ และทอมกับเจอร์รี่ก็น่ารักมากด้วย ภาพเคลื่อนไหวของพวกเขาออกแบบมาดูดีมาก ดูไร้เดียงสาและแสดงออกถึงความเป็นพวกเขาได้มากเลย ในหนังยังเห็นเรื่องราวการแข่งขันของพวกเขาอย่างชัดเจนด้วย ฝ่ายหนึ่งอาจไม่ใช่ฝ่ายถูกต้องเสมอไป บางครั้งความฉลาดก็เหนือกว่าความแข็งแกร่ง”

                ความขัดแย้งในชีวิตจริงบางอย่าง เช่น ระหว่างพี่น้อง มักจะมีให้เรียนรู้ได้บ่อย “ทอมกับเจอร์รี่คือคู่แข่งที่ติดกันอย่างแน่นแฟ้น” เดอฟาเรียเล่าเสริมว่า “แต่อย่างเรื่องพี่น้อง พวกเขาต่างมีความสำคัญในชีวิตของกันและกัน แต่ยืนยันได้เลยว่าพวกเขาไม่มีทางยอมรับมันหรอก!”

                สำหรับสตอรี่ที่ตอนนี้ได้กำกับฯ ไลฟ์แอ็คชั่นเล่าว่า “ผมตื่นเต้นกับการถ่ายทอดเรื่องนี้สู่หน้าจอ และได้พาพวกเขามาอยู่ในโลกแห่งความจริง ได้เห็นพวกเขาวิ่งและต่อสู้กันในเมืองใหญ่อีกเมืองหนึ่งอย่างนิวยอร์ค”

“ผมโตมากับการ์ตูนพวกนี้” เขาเล่าต่อว่า “ผมเลยอยากแน่ใจว่าเราคงความเป็นพวกเขาแบบเดิมได้ พวกเราไม่อยากแก้ไขอะไร ผู้ชมจะได้ยินซาวด์เอ็ฟเฟ็กต์แบบที่เคยได้ยินเวลาทอมกับเจอร์รี่ไล่ล่า และทำลายข้าวของที่อยู่รอบตัว เรามั่นใจว่าพวกเขาได้สู้กันบ่อยขึ้นแน่นอน” เขาหัวเราะ สำหรับจุดพลิกผันของเรื่องเขาเปิดเผยว่า “มาถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็ต้องสามัคคีและร่วมมือกันเพื่อกอบกู้สถานการณ์”

ฉันโดดเด่นภายใต้แรงกดดัน เหมือนกับเพชรหรือริฮานน่า

~เคย์ล่า

สำหรับเรื่อง “Tom and Jerry” ที่เกิดขึ้นบนโลกแห่งความจริง สตอรี่ได้รวมทีมนักแสดงมนุษย์ที่น่าประทับใจมาแสดงร่วมกับนักแสดงจากภาพเคลื่อนไหว เริ่มจากโคลอี้ เกรซ โมเร็ตซ์ ผู้รับบทนางเอกสาวเคย์ล่า

“เคย์ล่าเป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจค่ะ” เธอกล่าว “เธอมีความน่ารักแบบแปลกๆ ในมุมของการตัดสินใจเรื่องแย่ๆ และชอบโกหกอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็คว้าตำแหน่งระดับสูงของโรงแรมนี้ไว้ได้ ซึ่งเธอไม่ได้มีความเหมาะสมอย่างเป็นทางการเลยสักนิด แต่ฉันคิดว่าทุกคนจะเข้าใจเธอได้ค่ะ เพราะเธอไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายใดๆ เลย เธอทำเพื่อพยายามพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเธอคู่ควรกับที่นี่ แม้ว่าเธอจะทำไม่ค่อยถูกไปสักหน่อย และแน่นอนว่าเธอต้องรับภารกิจกำจัดหนู และคิดได้ว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการจ้างแมว ฟังดูเข้าท่าดีออกจริงมั้ย?”

โมเรตซ์สนุกกับการรับบทเคย์ล่ามากเพราะ “เธอดูเป็นคนซื่อๆ มีหลายอย่างที่เหมือนกับตัวฉันเลยค่ะ ไม่รวมเรื่องขี้โกหกนะ!” เธอหัวเราะ “แต่เป็นพวกเรื่องการทำอะไรเกินจริง ถือเป็นมุมที่น่าตลกของเธอค่ะ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ฉันได้รวมความเป็นธรรมชาติของตัวเองและสไตล์การเล่นมุกแบบตัวเองเข้ากัน ได้เป็นโคลอี้ในแบบที่อยู่กับครอบครัว และบทบาทที่ได้แสดงค่ะ”แ

ในมุมของความตลกคืออีกสิ่งหนึ่งในหนังที่ดึงดูดโมเรตซ์ได้ “ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับทิม ความวิเศษอย่างหนึ่งคือเขาบอกฉันว่าให้คิดถึงโลกนี้ในมุมกลับ เราอยู่ในนิวยอร์คซิตี้ ทุกอย่างก็ดูเหมือนนิวยอร์คซิตี้ แต่ถ้าเรามองไปรอบตัว สัตว์ทุกชนิดอย่างสุนัขที่มีไว้ให้เช่า หรือปลาที่อยู่บนจานแล้วกำลังจะมีคนกิน มันเหมือนกับภาพวาด มันมีส่วนประกอบของจินตนาการอยู่ในโลกแห่งความจริง ซึ่งเป็นมุมที่ทำให้ฉันรู้สึกชอบมากค่ะ”

นักแสดงยังสนุกกับบรรยากาศที่สตอรี่สร้างเอาไว้ในฉากด้วย เธอเล่าว่า “ทิมจัดฉากให้ดูเป็นลักษณะเปิดกว้างและอุ่นใจ ไม่เคยมีคำว่า ‘อย่านะ เธอทำแบบนั้นไม่ได้’ หรือ ‘อย่านะ มันไม่ถูก’ แต่มักจะเป็น ‘ได้สิ และ…’ มันช่วยให้ฉันคิดถึงการแสดงและได้ลองสิ่งใหม่ๆ มากขึ้นค่ะ”

และสตอรี่เองก็รักการแสดงของเธอในบทเคย์ล่า “โคลอี้เป็นคนสร้างความมหัศจรรย์ในหนังและบนโลกใบนี้ หนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นเธอเล่นมุกเยอะมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะจะได้เห็นเธอพูดคนเดียวบ่อยมาก เพราะมีหลายฉากที่เธอต้องแสดงกับทอมและเจอร์รี่ แต่เธอก็แสดงออกมาได้ดี”

“ความสนุกของการร่วมงานกับตัวละครแอนิเมชั่นคือการที่ฉันต้องแสดงกับตัวเองในฉากค่ะ การแสดงที่ออกไปต้องใช้ความกล้า ทำให้ทีมศิลปินจะสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบไหนก็ได้ และนั่นคือประสบการณ์ที่วิเศษมากเลยค่ะ” เธอกล่าว

สิ่งที่ผลักดันการกระทำของเคย์ล่าส่วนใหญ่มาจากการที่เธอพยายามจัดการกับเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นจากทอมกับเจอร์รี่ โดยที่ไม่ให้หัวหน้าของเธอ เทเรนซ์ ผู้ควบคุมดูแลงานอีเวนท์ของโรงแรมสังเกตเห็นมันได้ เพราะเขาคอยจับตามองเธออยู่ตั้งแต่เริ่มแรก

สตอรี่เล่าว่า “เทเรนซ์คือคนร้ายคนสำคัญของเราในหนัง และบทนี้แสดงโดยไมเคิล พีน่าคนเก่ง”

“ทิม สตอรี่เป็นผู้กำกับฯ ที่ไม่อยากเพิ่มความกดดันใดๆ ลงไปในฉาก ถือเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับนักแสดงครับ” พีน่ากล่าว “ถ้าเขามีเรื่องที่เคยกังวลอะไรในฉาก เราไม่มีทางรู้ได้เลย ทุกอย่างมันดูเรียบง่ายไปหมดสำหรับเขา”

“ในหนังตัวละครของผมคือเทเรนซ์ เขาอยากทำให้งานแต่งออกมาน่าประทับใจ” นักแสดงชายกล่าว “เพราะนี่คืองานแต่งที่ยิ่งใหญ่สุดของ Royal Gate เท่าที่เคยจัดมา และเขารู้ว่าภาพที่ออกไปจะต้องดูดีมาก โดยเฉพาะสำหรับตัวเขาเอง เขาเลยพิถีพิถันเรื่องโรงแรมเป็นพิเศษ เพราะพ่อของเขาเองก็เคยทำงานที่นี่ด้วย แต่ที่สำคัญสุดคือเขาต้องการประกาศให้โลกรู้ นั่นคือเหตุผลสำคัญที่เขาอยากให้งานออกมาดีสุดๆ”

ซึ่งเขาต้องจับตาดูพนักงานใหม่อย่างเคย์ล่าเป็นพิเศษ “เขาต้องแบกรับอะไรหลายอย่างรอบตัว และรับมือกับคนที่มีความแตกต่างกันหลากหลาย” พีน่าเล่าต่อว่า  “จากนั้นเคย์ล่าก็เข้ามา เขาไม่รู้จักเธอมากพอนัก แล้วยังมีปัญหาเรื่องหนูเข้ามาอีก ซึ่งเธอก็ตัดสินใจจ้างทอมและจากนั้นหายนะก็บังเกิด”

โมเรตซ์เล่าเสริมว่า “ฉันคิดว่าเทเรนซ์มีเซนส์เรื่องการโกหกของเคย์ล่าที่เธอกุไว้ ซึ่งมันยังดูไม่เห็นเด่นชัดสักเท่าไหร่ ไมเคิลเป็นคนที่รับบทนั้นได้อย่างสนุกมากค่ะ”

โคลอี้เป็นคนที่น่าทึ่ง” พีน่ากล่าว “เธอผ่านการแสดงมานานและยังคงเหมือนอายุแค่ 22 จากตอนที่เราถ่ายหนังกัน เธอเป็นคนเตรียมตัวดีมากและทุ่มกับการแสดงสุดตัว เธอมีจังหวะการเล่นมุกที่เก่ง รู้ว่าตอนไหนควรเล่นใหญ่และตอนไหนควรแสดงให้ดูเรียบง่าย การร่วมงานกับเธอคือเรื่องที่ดีมากครับ”

แม้ว่าเคย์ล่าต้องทำงานภายใต้การจับตามองของเทเรนซ์ แต่จริงๆ แล้วผู้จัดการโรงแรมคนที่เธอต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอมีคุณสมบัติเหมาะสมต่อตำแหน่งนี้ คือร็อบ ดีลานีย์ ผู้รับบทคุณดูบรอสที่ไม่ค่อยจับตาดูอะไรมากนัก

“ตอนเป็นเด็กผมดู ‘Tom and Jerry’ เยอะมากจนถึงขั้นติดหนัก” เขาเล่าถึงอดีต “เขาจะชอบไล่ตีกันไปมา เป็นอะไรที่สนุกดี ผมชอบการมองในมุมที่ต่างกันของพวกเขาด้วย เรามักจะเห็นภาพด้านล่างของขามนุษย์ ได้เข้าไปในรูหนูเล็กๆ ของเจอร์รี่ ซึ่งมักจะมีพวกเฟอร์นิเจอร์ที่เขาขนมาจากที่ต่างๆ ในบ้าน เช่น กล่องไม้ขีดไฟและพวกหลอดด้าย”

ดีลานีย์อธิบายให้ฟังว่าทำไมตัวละครของเขาถึงดูไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้ตัวเขา “เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ หมายความว่าเทเรนซ์ต้องทำอะไรไม่ดีไม่งามหลายอย่าง และดูบรอสจะเป็นคนเซ็นต์อนุมัติหรือไม่ก็ได้ เขาเห็นหลายอย่างอยู่ในการควบคุมจากที่ไกลๆ จากนั้นถึงตัดสินใจเรื่องต่างๆ เขาเลยดูอยู่ไกลตัวจนกระทั่งหลายอย่างยากที่จะควบคุมได้เขาถึงเข้ามาจัดการด้วยตัวเอง”

As to why Dubros is able to be fooled by the likes of inexperienced Kayla ดีลานีย์เล่าว่า “เขามองว่าเด็กสาวคนนี้เต็มไปด้วยพลังที่น่าทึ่ง พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มีรอยยิ้มที่สดใส และพร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ แต่เขาเพิ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่านี่อาจไม่ใช่งานที่เหมาะกับเธอ และเธอคือคนสร้างหายนะอย่างร้ายแรง 100% แต่เธอเป็นตัวละครที่มีความน่าทึ่ง เพราะเราจะเห็นทุกย่างก้าวของเธอ และคอยเป็นห่วงเธอว่าจะทำภารกิจงานแต่งนี้พัง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง แต่ก็ทำให้หนังออกมาสนุกดี”

แน่นอนว่าในงานแต่งแห่งศตวรรษจะต้องมี 2 คนมาเข้าพิธีแต่งงานกัน ในเรื่อง “Tom and Jerry” คืองานแต่งของเบ็นและพรีตา รับบทโดยโคลิน จอสต์และพอลลาวี ชาร์ดา

จอสต์เล่าตลกเกี่ยวกับตัวละครของเขาว่า “เป็นคนที่มีความน่าตื่นเต้นสมชื่อเลย เบ็นและพรีตากำลังจะแต่งงานกัน ซึ่งเป็นคู่ที่สังคมนิวยอร์คซิตี้จับตามองผ่านอินสตราแกรม พวกเขากำลังจะจัดงานแต่งแห่งปีในโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ และเบ็นกังวลเรื่องการสร้างความประทับใจให้ว่าที่เจ้าสาว จึงจัดงานให้ยิ่งใหญ่อลังการยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งแน่นอนว่าเธอพยายามสื่อให้เขาไม่ทำอะไรแบบนั้น แต่เขาตื่นเต้นเกินไปและอยากสร้างความประทับใจให้เธอ อันที่จริงคือพ่อเธอต่างหาก  เขาเลยบินไปต่างประเทศและสร้างเซอร์ไพรส์หลายอย่างที่เขาคิดว่าเธอควรจะได้รับ แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการเช่นกัน”

ชาร์ดายืนยันว่า “มันตลกมากค่ะที่หนุ่มอเมริกันผิวขาวอยากได้งานแต่งแบบชาวอินเดียที่ยิ่งใหญ่ ส่วนสาวชาวอินเดียแท้ๆ กลับอยากได้งานธรรมดาที่เรียบง่าย พวกเขาเลยมีปากเสียงกันและทุกอย่างก็ผิดแผนไปซะหมดเลย เพราะในโรงแรมมีสัตว์ต่างๆ อยู่ทั่วทุกแห่ง ตอนที่ทอมและเจอร์รี่เข้ามาร่วมวงด้วย พวกช้างก็พากันหวาดกลัวหนู ความวุ่นวายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นในทุกงานแต่ง โดยเฉพาะงานแต่งของชาวอินเดีย จนทุกอย่างดูบ้าคลั่งอย่างสุดขีด”

ชาร์ดาเล่าถึงความเป็นสากลของตัวการ์ตูนคู่นี้ว่า “พ่อของฉันโตที่อินเดียเล่าว่าวิทยาลัยของเขาในนิวเดลีเคยฉายการ์ตูน ‘Tom and Jerry’ บนจอขนาดใหญ่ในที่สาธารณะด้วย!”

นักแสดงหญิงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมในผลงานที่มีความสำคัญต่อครอบครัวเธอเอง และรู้สึกดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับคู่หมั้นบนหน้าจอของเธอ “โคลินเหมือนกับความฝันเลยค่ะ และฉันโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับเขา เราเจอกันครั้งแรกที่โต๊ะอ่านบท เราเดินทางมากันไกลมากทั้งคู่ เขามาจากสหรัฐฯ ส่วนฉันมาจากออสเตรเลีย และต้องมาเหนื่อยกับบทที่ทะเลาะกันเลย ซึ่งมันก็ทำให้การถ่ายทำที่เหลือของเราผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ!”

จอสต์เองก็รู้สึกแบบเดียวกัน “พอลลาวีเป็นคนที่ร่วมงานด้วยแล้วสนุกครับ” เขากล่าว “เธอเป็นคนตลกและอยากทำให้ผมทำให้เธอหัวเราะ และผมคิดว่ามันทำให้เกิดเคมีโดยธรรมชาติระหว่างเบ็นกับพรีตาด้วย”

พนักงานอีกคนใน Royal Gate คือพนักงานบาร์เจ้าเสน่ห์ คาเมรอน ผู้มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเคย์ล่า รับบทโดยจอร์แดน โบลเกอร์ เขาเล่าว่า “ครั้งแรกที่เคย์ล่าเริ่มทำงานที่โรงแรม คาเมรอนคอยดูแลและช่วยเหลือเธอให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แล้วยังมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องเจอร์รี่ เพราะเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโรงแรมและให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับเคย์ล่าได้ ผมคิดว่าเขาก็มีจุดอ่อนเรื่องเธออยู่ นั่นก็เป็นอีกเหตุผลที่เขาอยากช่วยเหลือเธอและได้เห็นเธอทำสำเร็จ”

อีกตัวละครหนึ่งที่น่าสนใจมากในเรื่องความสำเร็จของเขาคือเชฟแจ็คกี้ เคน จองมารับบทนี้และสร้างความตลกให้บทเชฟได้อย่างมาก “เขาเป็นคนที่ดูเครียดและเจ้าอารมณ์มาก เขาต้องมาจัดอาหารในงานแต่งที่ยิ่งใหญ่สุดในการทำงานและในชีวิต ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวันนี้เพียงวันเดียวเลย” จองกล่าว

วันแรกของการถ่ายทำเป็นฉากการเผชิญหน้ากันอย่างเคร่งเครียดระหว่างตัวละครของเขา เคย์ล่ากับเทเรนซ์ “มันสนุกมากครับเพราะผมเป็นแฟนของทั้งโคลอี้และไมเคิล ผมเคยร่วมงานกับทิม สตอรี่มาแล้ว เราเลยเหมือนเพื่อนเก่ากัน” จองอธิบายเพิ่มถึงความเข้มข้นในการรับบทแจ็คกี้ที่กลับง่ายขึ้นได้เพราะ “ทิมทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย และความผ่อนคลายสำหรับนักแสดงคือสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะในหนังแบบนี้ที่ต้องมีความวุ่นวายและเรื่องยุ่งๆ เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน”

ผมรู้ว่าเคนจะมอบความตลกอย่างมหาศาลให้พวกเราได้ และรับมือกับทุกอย่างที่เป็นเชฟแจ็คกี้ได้ ซึ่งเขาก็ทำได้จริงๆ” สตอรี่กล่าว “มันสนุกมากครับที่ได้เขามาร่วมงานในเรื่อง”

อีกตัวละครหนึ่งที่มีความแปลกในเรื่องชื่อว่า จอย พนักงานขนกระเป๋าหญิงในโรงแรม จอยรับบทโดยแพทซี่ เฟอร์แรน เธอยอมรับเรื่องตัวละครว่า “ไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุดในกลุ่ม เธอมีความแปลกและดูคาดเดาอะไรไม่ได้ เธอเข้ามาช่วยให้เรื่องราวมีอะไรมากขึ้นเพื่อ เคย์ล่า ตัวละครของโคลอี้ ที่พยายามดูแลความไม่ปกติของจอย ทำให้บทจอยเป็นบทที่สนุกในการเล่นค่ะ”

เฟอร์แรนได้เล่าถึงเมื่อก่อนว่า “ทอมกับเจอร์รี่คือการ์ตูนเรื่องเดียวที่ฉันจำได้ว่าได้ดูแลโตมากับมัน ฉันเลยตื่นเต้นมากค่ะที่ได้มาร่วมงานในเรื่องนี้”

                สตอรี่ได้รวมผู้มีชื่อเสียงหลายท่านมาร่วมรับบทบาทเด่นต่างๆ รวมถึง โอซูน่า นักร้องชาวเปอร์โตริโกที่ชอบสร้างความตื่นเต้น ผู้รับบทพนักงานในโรงแรม; พิธีกรทางทีวีชาวอิตาเลียน เปาโล โบโนลิส ผู้รับบทแขกที่มาร่วมงานแต่ง และผู้ประกาศข่าวกีฬาชาวอเมริกัน โจ บัค ผู้รับบท…โจ บัค

นักแสดงที่ปรากฏรอบตัวละครแอนิเมชั่นในเรื่อง “Tom and Jerry” จะออกมาในรูปแบบ 2 มิติ ซึ่งมีทั้งนักแสดงที่คุ้นหน้าและนักแสดงหน้าใหม่ บางคนก็ให้เสียงพากย์ที่ผู้ชมจะจดจำได้ (ต่างจากตัวละครโปรดของเรา ทั้งแมว หนู และอีกหลายตัวที่พูดได้!)

สไปค์ ให้เสียงพากย์โดยบ็อบบี้ แคนนาเวล บุลด็อกจอมเกรี้ยวกราดเพื่อนซี้ของเจ้าบ่าว ซึ่งเจ้าบ่าวคนนั้นคือเบ็น ผู้เป็นเจ้าบ่าวในงานแต่งสุดไฮโซที่จัดขึ้นใน Royal Gate Hotel โรงแรมหรูแห่งนิวยอร์ค แต่ความหรูหราในบรรยากาศนั้นไม่ช่วยให้เขาหยุดการไล่ล่าทอมอย่างเกรี้ยวกราดลงได้เลย

ทูตส์ แมวสาว

ทูตส์ แมวสาวผู้สง่าและแฝงความไร้เดียงสาเดินทางมาที่ Royal Gate Hotel และอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าสาวไฮโซ แต่ทูตส์กลับไม่วางตัวสูงส่งเหนือไปกว่าทอม หรือกางกรงเล็บออกมาเวลาที่เห็นเจอร์รี่เลย

โกลดี้

โกลดี้ว่ายน้ำอย่างมีความสุขอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณดูบรอส ผู้จัดการทั่วไปแห่ง Royal Gate Hotel  และคอยแอบหัวเราะเยาะเทอร์แรนซ์ ผู้จัดการดูแลอีเวนท์ต่างๆ ขณะที่พยายามพัฒนาความสัมพันธ์กับเคย์ล่า พนักงานใหม่ของเขา แม้ว่าเธอจะจ้างทอมให้มาจัดการแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเจอร์รี่ก็ตาม

แก๊งค์แมวข้างถนน

บุตช์ หัวหน้าแก๊งค์แมวข้างถนน ให้เสียงพากย์โดยนิคกี้ แจม ซึ่งต้องเคยเห็นเขาในหนังแนวนักเลงอันธพาลทุกเรื่องเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพราะเขามีความเข้าใจในทุกรายละเอียดและความแตกต่างของชีวิตข้างถนน เมื่อเขาเห็นทอมมาอยู่ในอาณาเขตตัวเอง เขาจึงรวมตัวแก๊งค์มาขับไล่ทอม แต่ทอมกลับว่องไวและฉลาดกว่า จนกระทั่งพวกเขาต้องไปลงเอยที่ศูนย์พักพิงช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นอีกครั้งตามเคย

ไม่มีใครอยากมีปากเสียงกับไลท์นิ่งที่ให้เสียงพากย์โดยโจอี้ เวลส์ผู้ฉลาดที่สุดในกลุ่มเลย เขาดูตัวเล็กกว่าปกติ  ชอบมองบุตช์เป็นแบบอย่าง แต่ก็ไม่เคยเดินช้าล้าหลังและนำหน้าเขาจนเกินไปเลย

ท็อปซี่ มีขนาดความสูงที่เล็กมากให้เสียงพากย์โดยแฮร์รี่ แรตช์ฟอร์ด ไม่เข้าร่วมในเกมใดๆ ทั้งนั้น เขาถูกมองข้ามจากเพื่อนสมาชิกในกลุ่ม บุคลิกดูซับซ้อนแบบนโปเลียน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการกระโดดขึ้นไปบนกล่องที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อมองดูสมาชิกของแก๊งค์อย่างใกล้ชิด

                แน่นอนว่าการ์ตูนแมวไล่จับหนูแห่งตำนานจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีจิตใจฝั่งดีและร้ายของตัวเองเกิดขึ้น…

ด้านจิตใจฝั่งดีที่อ่อนโยนของทอมจะคอยแนะทางแก้ปัญหาด้วยความมีเมตตา ส่วนจิตใจฝั่งร้ายเต็มไปปด้วยความเจ้าเล่ห์ และคอยสนับสนุนให้ทอมตามไล่ล่าเจอร์รี่เสมอ

ทอมจะปลุกจิตใจทั้งสองฝั่งขึ้นมาในยามที่เขาต้องอาศัยการตัดสินใจครั้งสำคัญ และเขามักจะได้ยินเสียงในจินตนาการทั้งสองฝั่งกระซิบอยู่ข้างหู ผู้กำกับฯ ทิม สตอรี่คิดว่ามีเพียงผู้ชายคนเดียวที่จะรับหน้าที่พากย์เสียงนั้นได้ คือลิล เรล โฮเวอรี่

สำหรับการสร้างบรรยากาศงานแต่งให้เจ้าสาวพรีตาในแบบที่เขาคิดวาเธอต้องการ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ต้องการเลยสักนิด เบ็นได้ตกลงกับทางโรงแรมให้จัดงานเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ขึ้นมา

ซีซิลและมัลคอล์ม

ซึ่งสองสมาชิกสำคัญในงานแต่งแห่งศตวรรษคือซีซิลและมัลคอล์ม ทั้งคู่เคยผ่านงานแสดงอย่างโชกโชนจนยากจะหาที่เปรียบได้ ช้างทั้งสองเชือกนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนบ่าวสาว แต่ทั้งคู่คือดาวเด่นของการแสดง  ซึ่งจากความสามารถที่มีมากขนาดนี้ จะเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นได้?

และสุดท้าย (แม้ว่าในทางเทคนิคจะต้องมาเป็นคนแรก) จะมีการแนะนำผู้ชมไปพบทอมกับเจอร์รี่ในเมืองนิวยอร์คซิตี้ผ่านมุมมองของนก และเสียงดนตรีบนท้องฟ้าของนกพิราบ ซึ่งเป็นแรปเปอร์ของเมืองที่กำลังโด่งดัง (และดังยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ)  เขาคือหนึ่งในสามสหาย บทเพลงที่ได้ยินให้เสียงพากย์โดยผู้กำกับฯ ทิม สตอรี่ ที่เลื่องชื่อด้านการขโมยความน่าสนใจและหัวใจของแฟนๆ ของเขา

                แน่นอนว่าแฟนๆ ทอมกับเจอร์รี่และแฮนนา-บาร์บาร่าจะได้พบความสะดุดตาที่ตัวเองชื่นชอบตลอดทั้งเรื่อง สำหรับการสร้างสิ่งมีชีวิตทั้งใหญ่และเล็กในเรื่อง แผนกแอนิเมชั่นต้องใช้ทีมงานถึง 29 คน โดย 19 คนอยู่ที่สหราชอาณาจักรและอีก 10 คนอยู่ที่ลอสแองเจลิส จะมีการแบ่งงานเป็น 3 ส่วน คือส่วนของการถ่ายทำที่ประกอบด้วยผู้สร้างภาพเคลื่อนไหวและผู้ควบคุมภาพเคลื่อนไหว ทั้งสองหน้าที่นี้ต้งควบคุมและจัดการภายในแผนก ส่วนของการตัดต่อประกอบด้วยผู้ลำดับภาพและผู้ช่วยอีก 2 คน ทำหน้าที่ตัดต่อภาพแอนิเมชั่นเข้าด้วยกัน กำหนดช่วงเวลากับภาพที่ออกมาให้สอดคล้องกัน และส่วนของผู้สร้างภาพเคลื่อนไหวที่ต้องรับภารกิจใหญ่ของแผนก

                แน่นอนว่าแรงบันดาลใจของพวกเขามาจากแอนิเมชั่นของทอมกับเจอร์รี่ ซึ่งภายในแผนกจะมีการรวบรวมผลงานเอาไว้มากกว่า 100 ตอนที่ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง แม้ว่าผู้ชำนาญทุกคนเคยดูการ์ตูนต้นฉบับกันมาแล้วตอนเป็นเด็กและตอนโต แต่ยังต้องมีการศึกษาเรื่องจังหวะของการ์ตูนที่ผู้สร้างแอนิเมชั่นต้นฉบับเคยสร้างไว้ ในความเป็นจริงแล้วผู้เขียนเรื่องดีน่า อะธานาซิโอ เคยพบกับวิลเลียม แฮนนามาแล้วเมื่อช่วงต้นปี 1980 และผู้ชำนาญด้านการสร้างสตอรี่บอร์ด ฟิล วอลเลนทิน รู้จักทั้งแฮนนาและโจเซฟ บาร์บีร่าเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ส่วนสมาชิกคนอื่นในทีมก็เคยร่วมงานกันเป็นประจำมาก่อน รวมถึงผลงานในเรื่อง “Who Framed Roger Rabbit” และผลงานต้นฉบับของ “Space Jam” ด้วย

                ภาพวาดจำนวนมากถูกสร้างขึ้นมาตลอดการทำงาน โดยรวมแล้วมีมากถึง 15,000 ในช่วงก่อนการถ่ายทำ และมีเพิ่มเติมอีกอาทิตย์ละ 900 ภาพในช่วงหลังการถ่ายทำตลอด 26 สัปดาห์ รวมแล้วมีภาพเพิ่มเติมมากถึง 25,000 ภาพ

โมเรตซ์เล่าว่า “ภาพเคลื่อนไหวที่วาดด้วยมือ ทั้งขอบเขตภาพ ลวดลายต่างๆ และสีสัน มันเป็นอะไรที่สนุกเมื่อได้ดู และเป็นสิ่งที่ฉันรักมากตอนที่ยังเด็ก จริงๆ แล้วทอมกับเจอร์รี่และสัตว์อื่นๆ ไม่ค่อยได้ยินการสื่อสารในภาษาคนมากเท่าการตีความของเราเอง มักสงสัยกันว่าพวกเขาพูดอะไรกัน กำลังสู้กันเรื่องอะไร และฉันก็สนุกกับการค้นหาสิ่งนั้นในจินตนาการตามประสาเด็กค่ะ มันเลยเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของการสร้างหนังเรื่องนี้”

โรงแรมนี้เคยต้อนรับประธานาธิบดีถึง 4 สันตะปาปา 3 กษัตริย์ 2

และตอนนี้เรากำลังจะมีพิธีแต่งงานแห่งศตวรรษ

~เทเรนซ์

สถานที่ & การออกแบบฉาก & การออกแบบเครื่องแต่งกาย

“ถ้าเราจะพาทอมกับเจอร์รี่ไปอยู่ในที่ๆ พวกเขาไม่น่าจะไปอยู่ได้ มันก็มีตัวเลือกไม่เท่าไหร่” เดอฟาเรียกล่าว “บนเครื่องบิน หรืออาจจะบนเรือใหญ่ เราเลือกให้เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวในนิวยอร์ค ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากที่นั่นมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้กลายเป็นโรงแรมสนุกๆ ได้ และคนจำนวนมากก็ไม่อยากเห็นแมวหรือหนู โดยเฉพาะการเห็นพวกมันวิ่งไล่กันตรงล็อบบี้”

                ทีมผู้ออกแบบฉากฯ ของเจมส์ แฮมบริดจ์เลือกโทนสีที่เรียบง่าย เพื่อแน่ใจว่าโทนสีหลักของทอมกับเจอร์รี่จะไม่ซ้ำกับสถานที่แห่งไหน พวกเขายังใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ เช่น เรื่องความสูงของเฟอร์นิเจอร์ ความสูงของเจอร์รี่ ซึ่งพวกเขาต้องสร้างผลงานร่วมกับผู้กำกับฉากฯ อลัน สจ๊วต เพื่อกำหนดมุมความสูงของกล้องที่เหมาะกับมุม “นักแสดงหลัก” ของพวกเขา หรือควรสูงจากพื้นขนาดไหนเพื่อให้มองเห็นได้

                โรงแรม Royal Gate Hotel ต้องมีมาตรฐานเทียบเท่ากับ Plaza หรือ Waldorf Astoria ซึ่งที่นั่นมีหลายเหตุการณ์ในหนังเกิดขึ้น และต้องมีการใช้ฉากจำนวนมาก เช่น ล็อบบี้สุดหรู บาร์ ห้องสวีทเพนท์เฮาส์ของบ่าวสาว ห้องสวีทหัวมุมของเคย์ล่า ออฟฟิศของดูบรอส ทางเดินโรงแรม ห้องครัว และห้องจัดงานขนาดใหญ่ โดยทั้งหมดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากอาร์ท เดโค, แฟรงค์ ลอยด์ ไรท์, หลุยส์ คาห์น และ หลุยส์ ซัลลิแวน ส่วนการจัดดอกไม้บริเวณล็อบบี้ที่ดูเรียบหรูได้แรงบันดาลใจมาจากพระเจ้าจอร์จที่ 5 ในกรุงปารีส

                สำหรับการสร้างฉากทางเข้าสู่โรงแรมทางหลัก ทีมออกแบบมีเวลาเพียง 8 อาทิตย์ในการเปลี่ยนฉากเมืองปารีสปี 1920 ของเรื่อง “Fantastic Beasts” ภาค 2 ให้กลายเป็นเมืองนิวยอร์คที่ดูทันสมัย   แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเก็บไว้ใช้ได้คือเครื่องผลิตไอน้ำที่ประดิษฐ์ขึ้นในหนังเรื่องก่อน มีการนำมาติดตั้งใหม่ใต้ฝาท่อระบายน้ำบนท้องถนนเพื่อให้เกิดไอน้ำขึ้นมา เพื่อสร้างบรรยากาศแมนฮัตตันของทอมกับเจอร์รี่ที่สมจริง

                สำหรับตลาด Jamaican Street ที่อยู่ในหนัง พ่อค้าตัวจริง 12 รายได้เดินทางมาพร้อมกับแผงขายของเพื่อช่วยสร้างความสมจริงให้ฉาก กองถ่ายได้มีการประดิษฐ์รถขายอาหารของตัวเองขึ้นมาด้วย เช่น Mel’s Meatpackers และ Cornelius Hot Ribs มีการจ้างรถแอร์สตรีมจาก TLO ซึ่งเป็นบริษัทด้านยานพาหนะ เพื่อเพิ่มบรรยากาศของร้านขายของอื่นๆ อย่างแผ่นเสียงไวนิล ดอกไม้ พวกผ้า และมะพร้าว

                สำหรับงานแต่งสุดยิ่งใหญ่อลังการของเบ็นและพรีต้าในโรงแรม ผู้ตกแต่งฉากของแฮมบริดจ์ เนียม โคลเตอร์ละทีมงานของเธอได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพิธีแต่งงานของชาวอินเดียไว้เยอะมาก เพื่อหาความสมดุลระหว่างเบ็นที่มีมาตรฐานสูงตามที่บทบรรยายเอาไว้กับความรักของกลุ่มคนชนชั้นสูงที่ดูเหมาะสม โคลเตอร์และผู้ช่วยของเธอเดินทางไปที่อินเดียเพื่อไปดู Mandap ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีการแต่งงาน รวมถึงการซื้อบัลลังก์และข้าวของบางอย่างเพื่อประดับตกแต่ง

                เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่ดูน่าหลงใหลมากที่สุดถูกผลิตขึ้นมาโดยทีมงานด้านฉาก ผู้ผลิตเก้าอี้ผู้กำกับขนาดจิ๋วให้ทอมกับเจอร์รี่

                แต่ทีมงานด้านสเปเชียลและวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ของสตอรี่คือผู้สร้าง “ความสมจริง” ให้กับทอมและสัตว์อื่นๆ อีกหลายชนิด โดยมีการผลิตหุ่น 3 มิติของทอม เจอร์รี่ ทูตส์ หัวของสไปค์ หัวของเสือเบงกอลขนาดเท่าของจริง และช้างที่เคลื่อนไหวได้ มีการใช้เทคนิคการขึ้นรูปทั้งสมัยเก่าและสมัยใหม่ ผแต่ละตัวละครจะถูกปรินท์ออกมาในรูปแบบ 3 มิติขนาดเล็ก จากนั้นจะนำไปเพิ่มขนาดใน Plastazote โฟมโพลีเอทิลีน สำหรับหุ่นของทอมผลิตขึ้นจากโฟมโพลียูรีเธนพร้อมโครงอลูมิเนียม เพื่อให้ได้โมเดลหุ่นที่มีขนาดเท่าของจริง ทำให้สามารถแสดงโต้ตอบกับนักแสดงระหว่างถ่ายทำได้ รวมถึงขนที่จำลองขึ้นมาของนักแสดงนำทั้ง 2 ชีวิต เพื่อให้แสงไฟสะท้อนได้ในฉากและดูมีมิติบนหน้าจอ

                “โดยปกติแล้วเวลาร่วมงานในหนังแบบนี้ เราจะได้แสดงกับลูกเทนนิส” พีน่ากล่าว “มันเลยวิเศษมากที่ได้แสดงตอบโต้กับหุ่นตัวจริง มันช่วยกำหนดระยะการแสดงในฉากได้แม่นยำ ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังสื่อสารกับสัตว์ได้จริงๆ ทำให้การแสดงง่ายขึ้นเยอะเลย”

                โมเรตซ์คือผู้ที่น่าจะเข้าฉากกับทอมและเจอร์รี่มากที่สุดยอมรับว่า “อย่างแรกเลยมันคือประสบการณ์ที่ดีมากค่ะที่ได้แสดงกับพวกหุ่น!” มันต้องอาศัยความคุ้นเคยอยู่บ้าง และมีช่วงที่ตลกนอกจออีกด้วย เธอยอมรับ “อย่างน้อยก็เรียกได้ว่ามันน่าสนุกดีค่ะ ไม่มีช่วงไหนรู้สึกเบื่อเลย!”

                ทีมงานด้านสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ต้องออกแบบและผลิตลวดบังคับทั้งช้างซีซิลและมัลคอล์มให้เดินได้ ซึ่งต้องอาศัยมอเตอร์ที่ทำงานเข้าจังหวะกันและเครื่องสูบลมที่ทำให้หุ่นมีขนาดใหญ่ยักษ์ โดยมอเตอร์จะมีการติดตั้งโปรแกรมให้มีรอบการเดินในแบบวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์

                นักแสดงบางส่วนคือภาพเคลื่อนไหว แต่โดยหลักแล้วจะเป็นนักแสดงที่เป็นมนุษย์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย อลิสัน แม็คคอชและทีมงานของเธอได้รับมอบหมายเรื่องการคิดภาพลักษณ์ให้กับทุกคน ทั้งชุดของนักแสดงหลัก 80 คนและชุดของผู้มารวมตัวกันอีก 1,750 คน ซึ่งมีทั้งชุดที่ผลิตขึ้นมาและซื้อ

                สำหรับตัวละครเคย์ล่าของโมเรตซ์ แรงจูงใจของแม็คคอชมาจากนิวยอร์ค เธอเลยสร้างสไตล์ส่วนตัวที่ดูสบาย เข้าใจง่าย มีความเป็นชาวเมือง มีการใช้สีดำและเทา มีความสดใสแบบดอกไม้และซินนามอน แต่โดยรวมดูเรียบง่าย

                ทั้งเทเรนซ์และคุณดูบรอส ตัวละครของไมเคิล พีน่าและร็อบ ดีลานีย์ต่างเป็นคนที่อยู่ในธุรกิจ แม็คคอชจึงกำหนดให้พวกเขาใส่สูทสีเทาที่ดูเนี๊ยบและกางเกงสีน้ำเงินเข้มที่ดูเป็นทางการ

                ส่วนแรงบันดาลใจของเบ็นมาจากย่าน Upper Westside ในนิวยอร์คที่นำทุกอย่างมารวมกัน แต่มีความเข้าใจหนังกลับ แคชเมียร์ ผ้าคอตตอนน้ำหนักเบา และขนแกะ ส่วนว่าที่เจ้าสาวพรีต้า แม็คคอชได้ดึงวัฒนธรรมอินเดียมารวมเข้ากับผ้าหนาของผู้หญิง และมีการพิมพ์ใยไหม ดิ้นทอง ผ้าฝ้ายและผ้าลินิน ส่วนชุดแต่งงานแบบฮินดูของเธอมาจากดีไซน์เนอร์ชาวอินเดีย  

ท่วงทำนองสำหรับตัวละคร

                สำหรับการถ่ายทอดประเด็นที่มีการผสมผสานกันของครอบครัว-เพื่อน และความวุ่นวายของตัวละครสุดคลาสสิค สตอรี่ได้ผู้ประพันธ์ดนตรีคริสโตเฟอร์ เล็ฯเนิร์ตซมาช่วยแต่งเพลงให้ เขายังร่วมงานกับผู้ควบคุมดนตรี เคียร์ เลห์แมน เพื่อผสมผสานความตื่นเต้นของเพลงคลาสสิคกับเพลงโมเดิร์น รวมถึงศิลปินต่างๆ เช่น T-Pain, A Tribe Called Quest, Jodeci, Flo Rida, Jagged Edge, Bizkit & Butta และ DJ Shadow มาร่วมงานกันในเพลง De La Soul

                “ทอมและเจอร์รี่เป็นบทพิสูจน์เรื่องกาลเวลาเพราะเราทุกคนสามารถเข้าใจพวกเขาได้” สตอรี่กล่าวสรุป “ใครก็ตามที่เคยมีครอบครัว ซึ่งนั่นหมายถึงทุกคน ย่อมเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาที่มีทั้งรัก/แก่งแช่งชิงดีตามประสาพี่น้อง แต่ถึงแม้ทอมกับเจอร์รี่จะสร้างสมรภูมิรบขึ้นมาทุกวัน แต่เมื่อเกิดเรื่องร้ายกลับไม่มีใครต้อนใครให้จนมุมได้ พลังแบบนั้นสะท้อนให้เห็นในมิตรภาพระหว่างพวกเขาอย่างน่าทึ่ง และถ่ายทอดความตลกจากท่าทางได้อย่างเป็นอมตะ นั่นคือเหตุผลที่ตัวละครของพวกเขามีความโดดเด่นและเป็นที่รักของผู้ชมทั่วโลก เราหวังว่าคอหนังยุคใหม่ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่จะสัมผัสได้ถึงความคิดถึงนั้น แต่ก็ได้สนุกสนานกับพวกเขาในมุมมองใหม่ที่ดูทันสมัย และถูกออกแบบมาสำหรับผู้ชมรุ่นใหม่”

Facebook Comments
ติดต่อ Maganetthailand.com
Don`t copy text!