ประชาชนคิดอย่างไร กับ การทำให้แอปพลิเคชันรถยนต์รับส่งสาธารณะถูก

จากที่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้นำรถยนต์ส่วนบุคคลมาขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นรถสาธารณะให้บริการผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างถูกกฎหมายภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้สร้างรายได้และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทาง เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปและผู้ใช้บริการรถสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล  จำนวนทั้งสิ้น 567 คน (สำรวจทางภาคสนามและออนไลน์) ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.- 3 พ.ค. 2564 สรุปผลได้ ดังนี้

 1. การใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน 

อันดับ 1เคยใช้บริการ85.71%
อันดับ 2ไม่เคยใช้บริการ14.29%

2. ประชาชนเห็นด้วยกับประเด็นการทำให้แอปพลิเคชันรถยนต์รับส่งสาธารณะถูกกฎหมาย ดังนี้

อันดับ 1การผลักดันให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย ภายในเดือนมิถุนายน 2564 นี้97.00%
อันดับ 2การติดเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์บนตัวรถเพื่อบ่งบอกว่าเป็นรถยนต์ที่จะนำมาให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน89.95%
อันดับ 3การกำหนดราคาของบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับขนาดหรือประเภทของรถ เช่น รถขนาดเล็ก คิดในราคามาตรฐาน/รถหรูหรือรถขนาดใหญ่ สามารถคิดในราคาที่สูงขึ้นได้86.77%
อันดับ 4การกำหนดให้รถยนต์ส่วนตัวที่จะนำมาให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน จะต้องให้บริการผ่านแอปฯเท่านั้น80.07%
อันดับ 5การจ่ายค่าบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันในราคาที่สูงขึ้นเพื่อแลกกับบริการที่มีคุณภาพหรือมีมาตรฐานที่สูงกว่าบริการรถแท็กซี่ในปัจจุบัน77.60%
อันดับ 6ให้ขยายอายุการใช้งานของรถยนต์ส่วนตัวที่จะนำมาให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันได้ถึง 12 ปี 67.72%

3.  “5 อันดับ” สำคัญในการใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน  คือ

อันดับ 1ความสะดวกสบายในการใช้บริการ/บริการ 24 ชั่วโมง62.08%
อันดับ 2ความโปร่งใสในการแสดงราคา เช่น การแจ้งราคาล่วงหน้าก่อนการเดินทาง60.85%
อันดับ 3ไม่ถูกปฏิเสธ/สามารถส่งถึงจุดหมายได้ทุกที่58.55%
อันดับ 4มาตรฐานความปลอดภัย หรือมีประกันคุ้มครองผู้โดยสาร57.50%
อันดับ 5การนำระบบหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยดำเนินการ52.73%

*หมายเหตุ   ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)

สรุปผลการสำรวจ

                สวนดุสิตโพล เผยประชาชน 97เทใจหนุน ‘แอปเรียกรถ’

เชื่อมั่นคมนาคมดัน ก.ม. ผ่าน มิ.ย. 64

                สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ประชาชนคิดอย่างไร กับการทำให้แอปพลิเคชันรถยนต์รับส่งสาธารณะถูกกฎหมาย” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 567 คน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สำรวจระหว่างวันที่ 29 เม.ย.- 3 พ.ค. 2564 พบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นคนที่เคยใช้บริการแอปเรียกรถ 85.71% และเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้ 14.29%  

          ภาพรวมร้อยละ 97.00 เห็นด้วยกับการที่กระทรวงคมนาคมกำลังผลักดันให้บริการแอปเรียกรถถูกกฎหมายให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน 2564 นี้  โดยไม่เห็นด้วยเพียงร้อยละ 3.00

          นอกจากนี้ยังเห็นด้วยหากมีการติดสัญลักษณ์เพื่อบ่งบอกว่ารถคันนี้เข้าร่วมบริการ ร้อยละ 89.95 เห็นด้วยหากมีการกำหนดราคาอย่างเหมาะสมกับขนาดหรือประเภทของรถ ร้อยละ 86.77 เห็นด้วยกับกรณีรถยนต์ส่วนบุคคลต้องให้บริการผ่านแอปฯเท่านั้น ร้อยละ 80.07 ยินดีจ่ายในราคาที่สูงขึ้นเพื่อคุณภาพที่ดีกว่า ร้อยละ 77.60 และเห็นด้วยหากขยายอายุการใช้งานของรถส่วนตัวที่จะให้บริการผ่านแอปฯได้ถึง 12 ปี ร้อยละ 67.72

          สำหรับ 5 ปัจจัยแรกที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญในการเลือกใช้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ คือ ความสะดวกสบาย ร้อยละ 62.08 รองลงมาคือ มีความโปร่งใสในการแสดงราคา ร้อยละ 60.85 ไม่ถูกปฏิเสธ/ไปส่งทุกที่ ร้อยละ 58.55 มีมาตรฐานความปลอดภัย ร้อยละ 57.50 และมีการนำระบบเทคโนโลยีมาช่วยดำเนินการ ร้อยละ 52.73

          การสำรวจในเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจ เนื่องจากแอปเรียกรถเป็นบริการที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ธุรกิจบริการแอปเรียกรถในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 ธุรกิจดังกล่าวมีมูลค่ารวมสูงถึง 1.5 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะเติบโตสูงขึ้นถึง 5.7 แสนล้านบาทภายในปี 2568 (อ้างอิงรายงานวิจัยของ eConomy SEA 2020 โดย Google, Temasek และ Bain & Company) สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ให้บริการดังกล่าวหลายราย ไม่ว่าจะเป็น แกร็บ (Grab) โบลท์ (Bolt)  ไลน์แมน แท็กซี่ (LINE MAN Taxi) โกเจ็ก (Gojek) ทรูไรด์ (True Ryde) และ บอนกุ (Bonku) ซึ่งหากการผลักดันของกระทรวงคมนาคมในครั้งนี้เป็นผลสำเร็จก็จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศล่าสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่แอปเรียกรถสามารถให้บริการได้อย่างถูกกฎหมาย เช่นเดียวกันกับ สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม

Facebook Comments
ติดต่อ Maganetthailand.com
Don`t copy text!