ในภาพยนตร์แห่งรอยยิ้ม “ไสหัวไปนายส่วนเกิน”
เรียกว่าแค่ได้ยินชื่อก็สะดุดหูไปตามๆ กันสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” ของค่ายหนังน้องใหม่อย่าง เบนเล่ย์ ฟิล์ม ที่เตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นการแสดงร่วมกันครั้งแรกของ “มิน” พีชญา วัฒนามนตรี หลังผันตัวออกมาเป็นนักแสดงอิสระ และผลงานล่าสุดของ อนันดา เอเวอริงแฮม นักแสดงหนุ่มมากความสามารถที่ไม่ได้รับงานแสดงมานานหลายปี
โดย สมเกียรติ วิทุรานิช ผู้กำกับและคนเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้กล่าวถึงการที่ 2 นักแสดงเบอร์ต้นของเมืองไทยมารับแสดงเรื่องนี้ถือเป็นสวรรค์ทรงโปรดอย่างแท้จริง เพราะบทหมอกวินทร์ (อนันดา เอเวอริงแฮม) เป็นตัวดำเนินเรื่องและเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องในฐานะคุณหมอที่จะมาเยียวยาทั้งโรคร้ายและดูแลหัวใจให้กับ ผักกาด นางเอกของเรื่อง แม้ในบางซีนบางฉากจะไม่มีบทพูด แต่ก็เป็นฉากที่ต้องใช้ความสามารถในการแสดง เพราะต้องแสดงออกทางสีหน้าแววตา อารมณ์ที่ถูกสื่อสารออกมาทำให้เรารับรู้ได้ว่านี้คือการแสดงของนักแสดงระดับแถวหน้าจริงๆ “ตอนที่ผมบอกว่าได้อนันดามาเล่น ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอนันดาไม่ได้รับอะไรง่ายๆนะ แต่ใครได้อนันดาไปโชคดีมากซึ่งผมโชคดีจริงๆ เขาเหมาะสมที่สุด มีฉากหนึ่งงเขาต้องไปเลคเชอร์หน้าห้อง ซึ่งเราก็ให้ข้อมูลไป อนันดาก็นำข้อมูลที่ได้รับไปทำการบ้านเพิ่ม ตอนแสดงเขาไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองพูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่เวลาที่เขาต้องพูดเขาต้องเข้าใจมันเสียก่อน อันนี้เป็นพรสวรรค์ของนักแสดงเลย ในขณะที่นางเอกอย่างผักกาด กราฟฟิคดีไซเนอร์สาวที่ต้องเจอกับชีวิตพังขั้นสุด บทนี้ต้องไม่ห่วงสวย แถมบทในเรื่องก็เยอะมาก นอกจากนี้ยังต้องฝึกเต้นรำ แถมมีฉากแอคชั่นก็ต้องฝึกขึ้นสลิง แต่ด้วยความที่มินเป็นนางเอกเบอร์ต้นๆ ทำให้เรารู้ว่าเราเลือกไม่ผิด มินเป็นคนเต็มที่กับงาน เป็นคนอะไรก็ได้และเรียนรู้เร็วมาก อย่างในฉากบู๊มีบทต้องต่อยตีกับซอมบี้ มินก็ยอมเล่นเอง เวลาที่เขาแสดงร่วมกันก็ดูเคมีเข้ากันมาก ดูลื่นไหลไปหมด”
ซึ่ง “มิน” พีชญา วัฒนามนตรี กล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการแสดงร่วมงานแสดงครั้งแรกของตนกับ อนันดา “กับพี่อนันดาเรามีตัวเชื่อมคือเราเลี้ยงหมาพันธ์คอร์กี้เหมือนกัน และเพื่อนของพี่อนันดาก็รู้จักกับมิน เพราะฉะนั้นก่อนจะเล่นหนังด้วยกัน ก็มีการกริ๊งกร๊างกันอยู่แล้วว่าจะได้เล่นหนังด้วยกัน ก็ตื่นเต้นเพราะเขาเป็นพระเอกหนังในดวงใจมานานแล้ว พอได้พี่อนันดาเป็นพระเอกเราแฮปปี้มาก เขาคือพระเอกที่เล่นบนความเชื่อของตัวละคร ติสต์ด้วย และตัวจริงก็น่ารัก ถือเป็นช่วงที่ดี เพราะเวลามันประกอบกันมันดีไปหมด ไทม์มิ่งดี ช่วงเวลาชีวิตดี”
เชื่อแน่ว่า เคมีของพระนางคู่นี้จะทำให้ผู้ชมทั้งยิ้มทั้งซึ้งไปกับภาพยนตร์ส่งต่อกำลังใจเรื่องนี้ใน “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” เข้าฉาย 18 พฤศจิกายน 2564 ในโรงภาพยนตร์ ติดตามความเคลื่อนไหวและชมตัวอย่างได้ที่ https://www.facebook.com/goawaymr.tumor