เข้าฉาย 7 พฤศจิกายน 2567
ค่ายหนัง Warner Bros. Pictures
แนว Action, Adventure, Comedy, Fantasy
ผู้กำกับ Jake Kasdan
นักแสดง Dwayne Johnson, Chris Evans, Lucy Liu
ภาพยนตร์เรื่อง “Red One” นำแสดงโดยดเวย์น จอห์นสัน ผลงานแนวแอ็คชั่นคอมเมดี้ที่ไม่ควรพลาด ภาพยนตร์ถ่ายทอดมุมมองที่แปลกใหม่แหวกแนวของเทศกาลคริสต์มาสแห่งช่วงวันหยุด กำกับฯ โดยเจค แคสแดน ผู้เคยร่วมงานกับจอห์นสันมาแล้วในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “Jumanji” ที่สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมหลากวัยจากทั่วโลก นักแสดงชื่อดังอย่างคริส อีวานส์จะมาร่วมการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความตื่นเต้น
หลังจากที่ซานตาคลอส รหัสชื่อ: เรด 1 ถูกลักพาตัว หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของขั้วโลกเหนือ (ดเวย์ จอห์นสัน) ต้องร่วมทีมกับนักล่ารางวัลผู้สร้างชื่อฉาวโฉ่ระดับโลก (คริส อีวานส์) เดินทางรอบโลกในภารกิจต่อสู้เพื่อปกป้องเทศกาลคริสต์มาส
ภาพยนตร์ยังนำแสดงโดย ลูซี่ หลิว (ภาพยนตร์แฟรนไชส์ “Charlie’s Angels”), เคียร์แนน ชิปก้า (“Twisters”), บอนนี่ ฮันท์ (“Cheaper By the Dozen”), คริสโตเฟอร์ ฮิฟจู (“Game of Thrones”), นิค โครลล์ (“Big Mouth”), เวสลีย์ คิมเมล (“The Mandalorian”) และเจ้าของรางวัล Oscar เจ.เค. ซิมมอนส์ (“Whiplash”)
แคสแดนกำกับฯ จากบทภาพยนตร์ของคริส มอร์แกน (ภาพยนตร์แฟรนไชส์ “Fast & Furious”) เนื้อเรื่องโดย ไฮแรม การ์เซีย (ภาพยนตร์แฟรนไชส์ “Jumanji” และ “Fast & Furious”) อำนวยการสร้างฯ โดยการ์เซีย, จอห์นสัน, แดนี่ การ์เซีย, มอร์แกน, แคสแดนและเมลวิน มาร์ อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยแบร์รี่ วอด์แมน และ เอนสลีย์ ดาวีส์
ทีมงานสร้างสรรค์ของผู้กำกับฯ ได้แก่ ผู้กำกับภาพ แดน มินเดล (“Twisters,” ภาพยนตร์ “Star Wars”) ผู้ออกแบบฉาก บิล บรีกี้ (ภาพยนตร์ชุด “Aquaman,” “Jumanji” และ “Fast & Furious”) ลำดับภาพโดยมาร์ค เฮลฟริช, สตีฟ เอ็ดเวิร์ดส และ ทาร่า ทิมโพน (ภาพยนตร์ชุด “Jumanji”) ผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ผู้ชิงรางวัล Oscar เจอโรม เฉิน (“Jumanji: Welcome to the Jungle,” “Stuart Little”) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไมเคิล โครว์ (“Star Trek: Picard,” “Hawkeye”) คัดเลือกนักแสดงโดยจีน แมคคาร์ธี และ นิโคล อาเบลเลร่า ฮอลล์แมน ดนตรีโดยเฮนรี่ แจ็คแมน (“Jumanji: The Next Level”)
Amazon MGM Studios นำเสนอภาพยนตร์จาก a Seven Bucks Productions, Chris Morgan Productions, Detective Agency production, A Film By Jake Kasdan เรื่อง “Red One” จัดจำหน่ายในต่างประเทศโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ในโรงภาพยนตร์และระบบไอแมกซ์วันที่ 13 พฤศจิกายน 2024
รายละเอียดเรื่องราว
ผลงานแอ็คชั่นคอมเมดี้สุดตื่นเต้น “Red One” จะพาผู้ชมเดินทางสู่โลกอันลึกลับแห่งตำนานและความมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชวนสร้างความสงสัยมาอย่างยาวนาน ซูเปอร์สตาร์หนังแอ็คชั่นอย่างดเวย์น จอห์นสัน และ คริส อีวานส์ นำทีมนักแสดงสู่การผจญภัยที่ยากจะลืมเลือนในโลกแห่งตำนาน ท่ามกลางบรรยากาศที่ปนเสียงหัวเราะแห่งช่วงวันหยุดเทศกาล
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดเรื่องคาดไม่ถึง ซานต้าผู้โด่งดัง (เจ.เค. ซิมมอนส์) แห่งคั้ววโลกเหนือเกิดเรื่องบาดหมางและถูกลักพาตัวไป คอลลัม ดริฟต์ (จอห์นสัน) ผู้บังคับบัญชาแห่ง E.L.F. และหัวหน้าด้านความปลอดภัยของ RED ONE (ชื่อลับของซานต้า) ต้องร่วมมือกับแจ็ค โอ’มอลลีย์ (อีวานส์) นักสะกดรอยมือวางอันดับโลกและผู้มีหน้าที่ตามตำแหน่งของซานต้าโดยไม่ตั้งใจ ทั้งคู่ต้องจำใจร่วมมือกันเดินทางข้ามโลกเพื่อพาซานต้ากลับบ้านให้ทันเวลาทำการประจำปีของเขา พวกเขาต้องพบกับหายนะแห่งช่วงคริสต์มาสจากเหล่าร้าย แครมปัส (คริสโตเฟอร์ ฮิฟจู) และ ไกรล่า “เคียร์แนน ชิปก้า) ไปจนถึงสโนว์แมนตัวร้ายทั้ง 3
กำกับฯ โดย เจค แคสแดน (“Jumanji: Welcome to the Jungle”) เขียนบทฯ และอำนวยการสร้างฯ โดย คริส มอร์แกน (ภาพยนตร์แฟรนไชส์ “Fast & Furious”) จากเนื้อเรื่องต้นฉบับของผู้สร้างฯ ไฮแรม การ์เซีย (“Black Adam”) “Red One” สร้างจากเนื้อเรื่องวันคริสต์มาสในโลกแห่งเวทมนตร์ที่มีความตื่นเต้นข้ามวัฒนธรรม
รายละเอียดการถ่ายทำ
“ผมมีความฝันมาตลอดว่าจะสร้างหนังเกี่ยวกับวันคริสต์มาสที่มีความแสบๆ คันๆ” กล่าวพร้อมหัวเราะโดยไฮแรม การ์เซีย ผู้อำนวยการสร้างฯ และประธานฝ่ายผลิตแห่ง Seven Bucks Productions ก่อตั้งโดยแดนี่ การ์เซีย และ ดเวย์น จอห์นสัน “ฟังแล้วดูเพี้ยน แต่มันคือสิ่งที่ผมอยากทำมาโดยตลอด ผมพยายามถ่ายทอดเรื่องราววันคริสต์มาสพร้อมฉากแอ็คชั่นที่มีความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ ไปพร้อมกับตำนานของช่วงวันหยุดให้สมจริงที่สุด จนกระทั่งวันหนึ่งผมก็เกิดไอเดียว่าเราจะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร”
“เรารักหนังเกี่ยวกับวันหยุดทุกเรื่อง” จอห์นสันกล่าว “หนังคลาสสิคอย่าง ‘Miracle on 34th Street’ และ ‘It’s a Wonderful Life’ รวมถึงหนังร่วมสมัยอย่าง ‘Elf’ และ ‘Bad Santa’ พวกเรารักหนังทุกเรื่องด้วยเหตุผลเดียวกัน คือมันพาเรากลับไปสัมผัสความอบอุ่นที่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนๆ และครอบครัว ช่วงเวลาแห่งปีที่ชีวิตจะเนช้าลงไปหน่อยสัก 1 นาที ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการดูหนังเกี่ยวกับวันคริสต์มาสพร้อมกับคนที่คุณรักอีกแล้ว”
ระหว่างที่การ์เซียและจอห์นสันถ่ายทอดความรู้สึกนั้นลงไปในหนังเกี่ยวกับวันหยุดในแบบของพวกเขา ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าตัวเองต้องการความแปลกใหม่ด้วยเช่นกัน การ์เซียเล่าว่า “เรารู้ว่าถ้าเราสร้างหนังแห่งช่วงวันหยุดขึ้นมา มันต้องมีความยิ่งใหญ่ ชัดเจน และถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับช่วงวันหยุดแบบที่ไม่เคยเห็นบนหน้าจอมาก่อน เราต้องการหนังเกี่ยวกับคริสต์มาสที่เล่าถึงช่วงวันหยุดพร้อมฉากแอ็คชั่นที่มีความยิ่งใหญ่ ดเวย์นกับผมเริ่มคุยกันเรื่องนั้น… จนเราหยุดไม่ได้ ไอเดียต่างๆ เริ่มไหลเข้ามาเรื่อยๆ ไม่จบ”
ผู้อำนวยการสร้างฯ / นักเขียน ที่ร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน คริส มอร์แกส ตอบรับเรื่องนี้อย่างทันที การ์เซียจดจำได้ว่า “ผมเล่นกับคอนเซ็ปต์นี้มาพักหนึ่งแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าไอเดียนี้จะเข้าท่าไหม ผมเลยถามมอร์แกนดูเผื่อเขามีไอเดียอะไร คริสเขียนบทเรื่อง ‘Fast & Furious’ ทั้ง 7 ภาค และเป็นนักเขียนแอ็คชั่นคอมเมดี้คนหนึ่งที่เก่งมากในโลก ผมรู้ว่าเขาเหมาะสำหรับผลงานนี้แน่”
มอร์แกนรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีม “ไฮแรมเห็นภาพของโลกใบนี้ทั้งใบ” ผู้เขียนกล่าว “พอเขาพูดว่า ‘คุณอยากสร้างเรื่องนี้ร่วมกับพวกเราหรือ?’ ผมตอบ ‘การผจญภัยช่วงวันหยุดในแบบแอ็คชั่นคอมเมดี้ที่แสดงโดยดเวย์น จอห์นสันน่ะหรือ? แหงล่ะ! 100% เลย ผมเอาด้วย!”
และตอนนั้นการเดินทางเพื่อตามหา “เร้ด วัน” ก็เริ่มต้นขึ้น
“เรารู้เลยว่าต้องโทรหาใคร — เจค แคสแดน” การ์เซียกล่าว
จอห์นสันเคยร่วมงานกับผู้กำกับฯ และผู้อำนวยการสร้างฯ แคสแดนมาแล้วในผลงานสร้างความประทับใจทั่วโลกอย่าง “Jumanji: Welcome to the Jungle” และ “Jumanji: Next Level” เล่าว่าเขารู้ดีว่าผู้สร้างฯ เห็นภาพอย่างที่พวกเขาต้องการ “เจคกับผมเคยร่วมงานกันมาในหนังเรื่อง Jumanji และนี่เหมือนเป็นก้าวต่อไปของการร่วมงานกันที่ลงตัวมาก เจคเป็นผู้สร้างฯ ที่มีพรสวรรค์ เขารู้วิธีเล่าเรื่องราวที่สนุกและมีความอบอุ่นในหนังแอ็คชั่นที่มีความยิ่งใหญ่อย่างน่าอัศจรรย์ เราเคยสร้างมันมาด้วยกันและเรารู้ว่าเขาคือผู้กำกับฯ ที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับเรา”
“แล้วอยู่ๆ ก็มีไอเดียหนึ่งที่คลิกลงตัวขึ้นมาทันที สำหรับผมมันเกิดขึ้นแบบนั้น” แคสแดนกล่าว “ดีเจรับบทหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของซานต้า ผู้บัญชาการแห่ง E.L.F… ไอเดียนั้นทำให้เห็นภาพว่าจริงๆ แล้วขั้วโลกเหนือมีหน้าตาแบบไหน และทุกอย่างมีการทำงานอย่างไร รวมทุกสิ่งเพื่อสร้างความสมจริงและทำให้ต่างจากที่เคยเห็นมาก่อน ผมรักไอเดียนั้นทันทีเลยล่ะ”
สำหรับการเริ่มต้น มรอ์แกนและทีมงานเจาะลึกถึงประเพณีวันคริสต์มาสจากทั่วโลก และเรื่องราวต่างๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจและความตื่นเต้นให้เขา “ผมรักการเรียนรู้เรื่องที่มาของทุกตัวละครและเรื่องราวต่างๆ ดึงรายละเอียดจากตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ประเด็นที่พบเห็นได้ในทุกวัฒนธรรมคือเรื่องความใจดี ความหวัง และความอ่อนโยน”
การเล่าเรื่องราวที่แปลกใหม่และคาดไม่ถึงเกี่ยวกับช่วงวันหยุดคือหัวใจหลักของเรื่อง ตามที่มอร์แกน 1 ในผู้สร้างฯ กล่าว “ในโลกของเราสิ่งที่รับรู้เกี่ยวกับซานต้ามีรายละเอียดความจริงบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น” เขากล่าว “แต่เราจะเล่าให้เห็นถึงเรื่องราวในส่วนที่เหลือ เราจะรวมทุกสิ่งที่คุณเคยได้ยินมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กและหักมุมเล็กๆ น้อยๆ”
เรื่องราวของซานต้าน่าจะเป็นเรื่องหนึ่งที่มีการเล่าขานกันบ่อยที่สุดในโลก แคสแดนคิด แต่ผู้สร้างภาพยนตร์พบวิธีจะนำเสนอภาพใหม่ที่มีความน่าตื่นเต้นและทันสมัยมากขึ้น “ขั้วโลกเหนือของเราจะเป็นเมืองผลึกน้ำแข็งที่มีความยิ่งใหญ่ เป็นศูนย์กลางแห่งการผลิตของขวัญวันคริสต์มาสของโลก” ผู้กำกับฯ กล่าว “และเรานำเสนอซานต้าหรือนิคในชื่อที่เพื่อนๆ เรียกกันในแบบที่ต่างออกไป ในความคิดของเราเขาเป็นซานต้าที่ดูเท่ที่สุด และจากจุดนั้นเราเริ่มสร้างโลกแห่งตำนานในแบบ ‘Red One’ ขึ้นมา”
แต่เนื่องจากนี่คือภาพยนตร์เกี่ยวกับคริสต์มาส ผู้สร้างฯ เลยอยากเล่าเรื่องราวที่คลาสสิคเกี่ยวกับวันคริสต์มาสลงไปด้วย เป็นการนำเสนอบรรยากาศของภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา
“ในการผจญภัยสุดมหัศจรรย์ครั้งนี้ เรามีการถ่ายทอดเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ของ 2 ฮีโร่ในนามแคลและแจ็ค พวกเขาต่างกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติชีวิตของตัวเอง และมีความเกี่ยวข้องกับคริสต์มาสนี้เป็นพิเศษ พวกเขาต้องร่วมมือกันแม้ว่าจะต้องฝืนใจก็ตาม” แคสแดนกล่าว “เมื่อเรามีทั้งดีเจและคริส อีวานส์ 2 นักแสดงแนวแอ็คชั่นที่มีความน่าทึ่ง เหมือนคุณมีทั้ง 2 สิ่งนั้นแล้วจะได้แอ็คชั่นฮีโร่ที่ถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ ออกมาได้อย่างสมจริง”
“หนังเรื่องนี้มีความพิเศษสำหรับเรามาก” จอห์นสันยิ้ม “ผลงานจากกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ที่รักวันคริสต์มาส เราตื่นเต้นที่จะได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่ทำให้เราได้ฉลองช่วงวันหยุดไปพร้อมกับผู้ชมทั่วโลก”
คู่หูสุดแปลก
ดเวย์น จอห์นสันรับบทคอลลัม ดริฟต์ หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของซานต้าแห่ง E.L.F. ที่ย่อมาจากคำว่าการบังคับใช้ กองกำลัง และป้อมปราการ “คอลลัมทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายรักษาความลับของซานตาคลอส เทียบเท่ากับประธานแห่งสหรัฐฯ เลยทีเดียว” จอห์นสันอธิบาย “พวกเขาร่วมงานกันมานานราว 300-400 ปีมาแล้ว”
ตลอดเวลาที่ผ่านมาแคลจะช่วยนิคสร้างแรงบันดาลใจ ความสนุก และความสุขให้โลกในทุกปี และรักช่วงเวลานั้นทุกนาที “แต่โลกเปลี่ยนไปแล้ว” การ์เซียกล่าว “เช่นเดียวกับคาล เขารักความกระตือรือร้นของเด็กๆ แต่พวกผู้ใหญ่ทำให้เขาเครียดจนอยากจะถอยออกมา จากนั้นนิคได้หายตัวไปและเขาถูกเรียกตัวให้มารับความท้าทายครั้งใหญ่ในชีวิตของเขา”
การ์เซียเล่าว่าตอนเขานึกภาพของเอลฟ์ เขานึกถึงมนุษย์ตัวจิ๋วน่ารักที่วิ่งไปรอบๆ และช่วยสร้างของขวัญ “คาลคือสิ่งที่ตรงข้ามกัน เขาสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว 260 ปอนด์ขนาดใหญ่ยักษ์ แต่เป็นคนอบอุ่น น่ารัก และวางใจได้อย่างชัดเจน นั่นคือดเวย์น จอห์นสัน ดีเจตัวจริงเป็นคนอ่อนโยนี่รักวันคริสต์มาส รักเด็กๆ และอยากปกป้องโลก เราผสมผสานเข้ากับตัวละครในแบบที่คิดภาพเอาไว้ และปล่อยให้ขาถ่ายทอดความตื่นเต้นในแบบที่แฟนๆ รักออกมาด้วย”
แคสแดนเล่าถึงคอลว่าเป็นเหมือน “มือขวา” ของนิคมาอย่างยาวนาน นอกเหนือจากการทำหน้าที่เบื้องหลังภารกิจของซานต้าอย่างแข็งขัน “คาลคือมือขวาของนิค” แคสแดนกล่าว “พวกเขาผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน” และการแสดงที่โดดเด่นบนหน้าจอของเขาทำให้ดูเหมาะกับบทบาทนี้ด้วย แคสแดนกล่าวเสริม “ไม่มีใครเหมือนดีเจเลย เขาคือนักแสดงที่มีความโดดเด่นและจริงใจ ผมไมแน่ใจว่ามีนักแสดงแอ็คชั่นคนไหนเหมือนเขาอีกไหม เขามีทั้งความแกร่งและแข็งแรง จากนั้นแสดงความจริงใจ อ่อนโยน และตลกออกมาได้ในเวลาเดียวกัน”
สำหรับภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือนิค คาลต้องร่วมมือกับแจ็ค โอ’มอลลีย์ ชายผู้มีทุกสิ่งที่คาลรังเกียจ “แจ็คคือนักสะกดรอยที่เก่งสุดในโลก” แคสแดนกล่าว “เขาเป็นลูกจ้างที่พร้อมทำงานให้ทุกคน แต่ไม่ซื่อสัตย์กลับใครเลย เหนือยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดคือเขาอยู่ในรายชื่อของพวกเด็กดื้อด้วย”
แจ็ค รับบทโดยคริส อีวานส์ เขามองเห็นทุกอย่างเป็นโอกาสแต่ไม่ใช่คนที่ศรัทธาในวันคริสต์มาส ชีวิตส่วนตัวของเขามีแต่ความยุ่งเหยิง เขาเป็นทั้งนักเสี่ยงโชคและคุณพ่อที่น่ารังเกียจ พบว่าตัวเองกำลังอยู่บนทางแยก เขาบังเอิญรู้ตำแหน่งที่ตั้งขั้วโลกเหนือของซานต้าและลูกค้าลึกลับผู้ใช้ข้อมูลนั้นลักพาตัวซานต้า 2 วันก่อนคริสต์มาสอีฟ
อีวานส์เล่าถึงตัวละครของเขาว่าค่อนข้างมีความเกเร “มันสนุกทุกครั้งที่ได้รับบทเกเร! แต่ในชีวิตจริงเขาต้องพบเรื่องที่ต้องต่อสู้ เขามีลูกชายที่เขาละเลย เขาเสียสปิริตะวันคริสต์มาสไปแล้ว เขาต้องทำงานและก้าวต่อไปบนโลกด้วยตัวเอง ความโดดเดี่ยวนั้นทำให้เขาค่อนข้างเป็นคนกระด้าง”
เขาน่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่แย่สุดสำหรับคาล “เขาเป็นคนที่ไม่เชื่อในคริสต์มาสตั้งแต่เด็กแล้ว เขามักจะสร้างหายนะและไม่รับผิดชอบอะไรเลย” มอร์แกนกล่าว “พวกเขาคือคู่หูสุดแปลกที่คลาสสิคเสมอ
คริสคือคนที่เรานึกถึงตลอดสำหรับบทแจ็ค เขาเป็นคนที่สนุกสนานและกระตือรือร้น เขาถ่ายทอดบทบาทที่ดูน่าสงสารได้เก่ง แต่สุดท้ายคุณจะต้องรักตัวละครนี้ขึ้นมาบ้าง”
การได้พบกับพาร์ทเนอร์ที่สามารถอยู่เคียงข้างกันบนหน้าจออย่างจอห์นสันได้เป็นเรื่องที่วิเศษสุด การ์เซียกล่าว “คริสต์ อีวานส์คือคู่ที่ลงตัว พวกเขาเป็นนักแสดงแอ็คชั่นที่เก่งมากระดับโลก แต่ก็สามารถรับบทตัวละครที่เราเรียกว่ามีความหลอกลวงได้ดี”
คาลและแจ็คต่างเป็นคู่หูที่ไม่สามารถฉุดรั้งกันไว้ได้เลย มอร์แกนกล่าว “พอเราจับคู่ดเวย์นกับคริสต์ด้วยกันเป็นครั้งแรก พลังของพวกเขาพลุ่งพล่านมาก เกิดการสปาร์คกันอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาไม่มีการอ่อนข้อให้กันและสาดความสนุกใส่กันอย่างฉุดไม่อยู่ เราจะสัมผัสพลังสุดพิเศษนั้นได้”
แคสแดนเล่าต่อว่า “อีวานส์คือคนที่ผมอยากร่วมงานมาด้วยตลอด ผมเป็นแฟนเขามาก่อนกัปตันอเมริกาซะอีก ผมรู้สึกตื่นเต้นที่เขาได้มาร่วมงานด้วย ไม่แน่ใจว่าทุกคนรู้ไหมเขาเป็นคนตลกขนาดไหน เขาทำให้ผมหัวเราะได้ตลอดเวลา และเขามีไหวพริบในทุกสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเถียงกับแฟนเก่าหรือการต่อสู้กับสโนว์แมนยักษ์ เขาถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ออกมาได้สมจรงในทุกฉาก และคุณจะเชื่อในตัวเขา เขาคือของขวัญอย่างแท้จริง”
จอห์นสันเล่าว่าเขาอยากร่วมงานกับอีวานส์มานานแล้ว และเขาไม่ผิดหวังเลย “ผมรักคริสและเขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมาก ผมชื่นชมเขามานานหลายปีจากผลงานของเขาที่ผ่านมา โชคดีเป็นของเราที่เคมีเข้ากันได้ดีทั้งหน้าจอและหลังจอ มันช่วยทำให้การเข้าฉากของเราราบรื่นและเห็นเป็นรูปร่าง และเราสร้างหนังเกี่ยวกับวันคริสต์มาสเป็นครั้งแรก ทำให้เราทั้งคู่ได้ทำตามความปรารถนาเรื่องสำคัญอย่างที่คิดไว้”
อีวานส์เล่าว่าจอห์นสันเป็นคนที่สร้างเคมีที่เกิดขึ้นด้วยไม่ยากเลย “เขาเป็นนักแสดงที่มีความทุ่มเท สนุกสนาน และมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ เขาเข้าใจดีว่าจะสร้างแรงดึงดูดในหนังแนวนี้อย่างไร เขาเหมาะกับคาลมาก เพราะเขาเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น การได้เห็นคาลสูญสิ้นความรู้สึกนั้นมันกระตุ้นให้ผู้ชมอยากช่วยให้เขาได้ความสดใสนั้นกลับคืนมา”
เรื่อง “Red One” จะเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกคนอยากเข้าโรงหนัง อีวานส์กล่าว “เจคถ่ายทอดทุกสิ่งที่ผมรักเกี่ยวกับหนังตอนเป็นเด็ก เขาแสดงฉากแอ็คชั่นได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ทุกสิ่งดูยิ่งใหญ่และมีความเป็นอมตะ ผมโตมากับการไปดูหนังทุกสุดสัปดาห์พร้อมกับครอบครัวและเพื่อนๆ เวลาที่ทุกอย่างรู้สึกพิเศษ มีความมหัศจรรย์ และยิ่งใหญ่ ทำให้เรามีเรื่องคุยกันทุกวันจันทร์ที่โรงเรียน ผมรักอะไรแบบนั้น นั่นคือเหตุผลที่ผมเป็นนักแสดง และผมกระโจนใส่หนังแบบนี้เพราะรู้สึกว่านี่ล่ะคือความรู้สึกที่หนังมอบให้ ผมคิดว่าผู้ชมจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้น ชวนให้คิดถึงบ้านในแบบที่ควรจะเป็น”
ที่ขั้วโลกเหนือ
นิคในเรื่อง “Red One” ไม่ใช่เอลฟ์ที่ดูร่าเริง ร้องโฮ่ๆๆ ในชุดสีแดงสดอย่างที่ได้ยินในช่วงเทศกาลวันหยุด ซานต้ารายนี้จริงจังกับการออกกำลังกายในยิมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนที่ต้องเดินทางข้ามประเทศอย่างยาวนาน เขาเป็นผู้นำที่ไฟแรง มีความแข็งขัน แต่อ่อนโยน ตั้งใจทำให้โลกเป็นดินแดนที่น่าอยู่และเต็มไปด้วยความหวังมากขึ้น ซึ่งเขาก็ทำแบบนั้นในสไตล์ของเขา
“ซานตาคลอสของเรามีอีกชื่อว่า นิค หรือ เรดวัน เขาคือเจ.เค. ซิมมอนส์ ผู้น่าทึ่งนั่นแหละ” การ์เซียกล่าว “เขามีความอบอุ่น สนุกสนาน แต่มีความบึกบึนในแบบของเขา เจ.เค.เป็นคนที่มีเสน่ห์และแข็งแกร่ง เขามีไอเดียเยอะมากว่าจะถ่ายทอดบทบาทนี้อย่างไร ซานต้ารายนี้ต้องออกกำลังกายด้วย มีการเบิร์นแคลอรี่ช่วงคริสต์มาสอีฟไปเยอะมาก ซานต้าในเวอร์ชันของเจ.เค.คือสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน”
“หนังคริสต์มาสทุกเรื่องต้องการซานต้าที่เพอร์เฟ็กต์” จอห์นสันกล่าว “เรามี เจ.เค. ที่เขามีไอเดียมากมายว่าจะทำยังไงให้ซานต้าเป็นแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน รูปร่างเขาดีมาก ดูเข้ารูปชัดเจน เขาเหมือนกับฮีโร่ของผมเลย
“ซานต้าที่ดีที่สุดคือคนที่มีความสุขในชีวิตไม่เหมือนใครอย่างเจ.เค.” นักแสดงในเรื่องและผู้อำนวยการสร้างฯ กล่าวเสริม “เขาเป็นนักแสดงที่เก่งมากคนหนึ่งของเรา ได้รับรางวัล Oscar ด้วย และเป็นคนหนึ่งที่นิสัยดีไว้ใจได้มากด้วย นั่นคือสิ่งสำคัญในชีวิตจริงและในหนังของเรา”
ซิมมอนส์ยอมรับว่าเขาหลงใหลในธรรมชาติของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “แต่หากมีเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และเนื้อเรื่องที่น่าสนใจให้บอกเล่า ขนาดก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย เหมือนหนังเกี่ยวกับวันคริสต์มาสที่สนุกทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือการแสดงออกถึงความอ่อนโยนและการเป็นคนดี”
แคสแดนตื่นเต้นกับการเล่าอินเนอร์แบบเด็ก 8 ขวบที่อยู่ในตัวเขาออกมา ซิมมอนส์เล่าว่า “มันเป็นสิ่งที่ลามไปสู่คนอื่น นั่นเป็นบุคลิกที่เหมาะสำหรับผู้กำกับฯ หนังคริสต์มาส” การร่วมงานกับจอห์นสันและอีวานส์เหมือนโบนัสสำหรับนักแสดงเลย “ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของดเวย์น โดยเฉพาะในหนังแอ็คชั่นคอมเมดี้ และเป็นบทที่ดีสำหรับคริส มีความแตกต่างจากสิ่งที่ผู้ชมเคยเห็นเขามาก่อน”
ซิมมอนส์เล่าติดตลกว่าสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือเรื่องการดูดีเมื่อเคียงข้างจอห์นสัน “การเตรียมตัวส่วนใหญ่ของผมคือการนึกถึงฉากที่ดีเจกับผมต้องอยู่ในยิม ผมบอกตัวเองเสมอว่าเป็นการจับคู่ที่ดีมาก ผมไปเข้ายิมและกินโปรตีนให้ได้มากที่สุด และผมเลิกโกนหนวดด้วย นั่นคือสิ่งสำคัญในการเตรียมตัวของหนังเรื่องนี้”
แคสแดนเล่าว่าเขารู้สึกโชคดีที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงที่มีคนต้องการตัวสูงมาก “ผมอยากร่วมงานกับคนที่เคยเล่นหนัง 5 เรื่องที่ต่างกันในช่วงหลายปี และเขาก็ไม่เคยมีคิวว่างเลย” ผู้กำกับฯ กล่าว “แต่ตอนนี้ผมคิดว่าทุกอย่างลงตัวอย่างที่ควรจะเป็นสำหรับเจ.เค. ที่จะมารับบทนิค มันมีแต่ความสนุกที่ได้เห็นในทุกวัน เขาทำให้ตัวละครนี้ที่เราทุกคนรักมีความแปลกใหม่ เพิ่มหลายมิติเข้าไปโดยที่ไม่ตัดสิ่งใดที่พวกเรารักในตัวเขาเลย เขายังคงเป็นซานต้าที่เราอยากออกไปเที่ยวด้วยในแบบที่ดูเท่มาก”
คุณนายคลอสรับบทโดยบอนนี่ ฮันท์ เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดูลงตัวเข้ากับสามีผู้โด่งดังของเธอ เธอคอยช่วยเตรียมวันคริสต์มาสตลอดทั้งปี ดูแลศูนย์ควบคุมขั้วโลกเหนือระหว่างที่เขาทำภารกิจช่วงค่ำคืน รวมถึงการอบคุกกี้ด้วย “เวลาได้ยินชื่อ ‘คุณนายคลอส’ เหมือนฉันต้องเริ่มกินคาร์บเลยค่ะ” เธอกล่าว “ฉันนึกภาพตัวเองต้องสวมชุดขนาดใหญ่และเข็มขัดหนังที่ดูโดดเด่น สวมวิกสีเทาและหมวกใบใหญ่ มีก้นหนา ปัดแก้มสีแดงเยอะๆฉันเฝ้ารออะไรแบบนั้น แต่ฉันดีใจที่ได้เห็นคุณและคุณนายคลอสเวอร์ชันนี้ พวกเขาพยายามรักษารูปร่างให้ดูแข็งแรง มีความทันสมัยมากขึ้น และพวกเขาทำธุรกิจใหญ่ร่วมกันเพื่อสร้างสิ่งที่ดี”
นอกจากฮันท์ยังมี แอชลีย์ หลานของเธอที่คอยโน้มน้าวให้เธอมารับบทนี้ด้วย “ฉันรู้ว่าตัวเองเชื่อใจในความกระตือรือร้นของเจคและจินตนาการของเขาได้ พลังที่เขามีเห็นได้อย่างชัดเจน แต่แอชลีย์อยู่ตรงนั้นด้วยตอนที่แจ็คโทรมา พอฉันบอกเธอว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร เธอพูดว่าโปรดแสดงเรื่องนี้นะ รวมถึงตอนพลิกอ่านบทก็รู้สึกว่าสนุกสนานมากเลย ในเรื่องมีทั้งตัวละครน่ารักและเนื้อเรื่องที่คาดไม่ถึง เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความเซอร์ไพรส์ มันมีแทบทุกสิ่งที่เราต้องการจากหนังคริสต์มาส”
แน่นอนว่าไม่ใช่มีแค่ครอบครัวคลอสที่มีบ้านอยู่ในขั้วโลกเหนือ ทั้งคู่ยังอยู่ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตสุดอัศจรรย์ ทุกคนมีหน้าที่สำคัญในการช่วยนิคและของขวัญนับล้านชิ้นของเขาผ่านช่วงเวลาสำคัญของวันคริสต์มาสไปได้ด้วยดีอีกด้วย “ขั้วโลกเหนือมีผู้อาศัยที่มีความหลากหลายสูงมาก” แคสแดนกล่าว “ผู้ช่วยของซานต้าหน้าตาต่างจากที่เราเคยเห็นในหนังสือนิทาน ทีมของ E.L.F. ที่ร่วมงานกับคาลมีส่วนที่เป็นมนุษย์เหมือนเขา แต่มีการรวมบรรยากาศคริสต์มาสสุดแสบจากทั่วโลกเอาไว้ที่นี่
ผู้ช่วยมือรองของคาลคือหมีขั้วโลกที่ชื่อว่าการ์เซีย เราใช้เวลาหลายเดือนร่วมกับศิลปินที่มีฝีมือ มาช่วยกันสร้างความน่าทึ่งขึ้นมา”
การอยู่ในฉากของหนังที่มีขนาดใหญ่แบบนี้นับเป็นประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับฮันท์ “มีศิลปะที่น่าทึ่งเกิดขึ้นทุกวัน” เธอกล่าว “ฉันต้องรู้สึกทึ่งกับความยิ่งใหญ่ ฉันรักการดูตัวละครที่ดูแปลกใหม่ในรถเทรลเลอร์สำหรับแต่งหน้าทุกเช้า จากนั้นได้เห็นพวกเขามีชีวิตในฉาก ฉากเหล่านั้นมีความยิ่งใหญ่ ซับซ้อน และเหนือจินตนาการไปมาก มันต้องอาศัยทีมที่มีความสามารถขนาดใหญ่มาช่วยกันสร้างผลงานจริงๆ”
ด้านมืดของวันคริสต์มาส
สิ่งที่ผู้สร้างภาพยนตร์ค้นพบคือโลกนี้เต็มไปด้วยตำนานและเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับช่วงวันหยุด บรรยากาศเต็มไปด้วยความสดใสร่าเริง แต่ก็มีด้านมืดอีกหลายเรื่องเช่นกัน “เมื่อเราเจาะลึกลงไปแล้ว เราจะพบกับหลายตัวละครที่มีความน่าสนใจและสนุกสนาน” แคสแดนกล่าว “ตัวละครหนึ่งที่มีชื่อเสียงคือแครมปัส”
แครมปัสเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เหมือนแพะ เขาสร้างความหวาดกลัวให้เด็กทั่วเยอรมัน ออสเตรีย และแถบเทือกเขาแอลป์แห่งยุโรปมานานแสนนานพอๆ กับที่ซานต้าสร้างความสุขให้พวกเขา “เขาคืออีกด้านหนึ่งของคริสต์มาส เหมือนเป็นคนที่คอยทำโทษเด็กดื้อ” การ์เซียกล่าว “เป็นตัวละครที่เราอยากพลิกบทบาทและทำให้ดูเหมือนแอนตี้ฮีโร่ ซึ่งทำให้เราต้องการใครสักคนที่มีความพิเศษ”
นักแสดงชาวนอร์วีเจียน คริสโตเฟอร์ ฮิฟจู มีชื่อเสียงในสหรัฐฯ จากบททอร์มุนด์ ไจแอนท์สเบน นักรบป่าจากเรื่อง “Game of Thrones” และคอนนอร์ โรด์ส จากเรื่อง “Fate of the Furious” จับคู่กันได้อย่างลงตัว “ผมเป็นแฟนคริสเฟอร์มานานแล้ว” แคสแดนกล่าว “เขาเป็นคนแรกที่เรานึกถึง เราบอกเขาแบบนั้น เราเอารูปบางส่วนให้เขาดูและเขาก็ตื่นเต้นมาเลย”
ฮิฟจูมีทั้งพรสวรรค์ เสน่ห์ และความเจ้าเล่ห์ในแบบที่แครมปัสควรจะเป็น มอร์แกนกล่าว “เราเห็นภาพเขาในแบบตัวละครที่มีความซับซ้อน ไม่ใช่แค่ตัวละครร้าย เขาเคยร่วมงานกับนิคที่เป็นพี่น้องอุปถัมภ์กันมาแล้ว
แครมปัสเป็นคนสร้างรายชื่อเด็กดื้อ เขาจะเอารายชื่อไปไว้ในส่วนที่ต้องถูกทำโทษ ซึ่งเป็นการสร้างความแตกแยกระหว่างเขากับนิคขึ้นมา”
แครมปัสถูกเนรเทศออกไปอยู่ในปราสาทที่เก่าแก่ในป่าอันมืดมิดมานานแสนนาน แต่คาลเชื่อว่าพวกสิ่งมีชีวิตอาจรู้เบาะแสตำแหน่งของนิค “คาลและแจ็คมาถึงช่วงกลางเดือนที่ฉ,องเทศกาล Krampusnacht กันอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นวันหยุดเดียวที่เขาพบว่าคุ้มค่าสำหรับการฉลอง” มอร์แกนกล่าว “เขาสร้างความสนุกสานให้ตัวละครที่น่ารังเกียจจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่แฮปปี้สักนิดที่ได้พบกับพวกเขา”
ฮิฟจูเล่าว่าเรื่อง “Red One”สร้างความแปลกใหม่ให้วันคริสต์มาสสำหรับเขา “นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เราจริงจังกับเรื่องราวของซานต้า” เขากล่าว “อาจจะมีเรื่องพื้นฐานคือเขาต้องทำหน้าที่ภารกิจของเขา ความสร้างสรรค์และมุกตลกทำให้ผมตกหลุมรักกับโลกทั้งใบของหนังเรื่องนี้ ผู้ชมจะได้ระเบิดเสียงหัวเราะไปกับฉากคอมเมดี้และแอ็คชั่น พร้อมด้วยเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความหวังในมุมของพ่อแม่ เรื่อง ‘Red One’ มีครบทุกสิ่ง ความตื่นเต้น ฉากแอ็คชั่น ไหวพริบ และช่วงเวลาที่น่ากลัว นี่คือหนังสำหรับทุกคนในครอบครัวจริงๆ”
วายร้ายตัวสำคัญของเรื่องจะอยู่ทางเหนือของแครมปัสไปสักหน่อย นั่นคือ ไกรล่า แม่มดแห่งช่วงคริสต์มาสตามตำนานของไอซ์แลนด์ เธอไม่ต่างจากแครมปัสที่สร้างความหวาดกลัวให้เด็กดื้อ เธอจะลงโทษด้วยความน่ากลัว รูปร่างทั่วไปโดยธรรมชาติคือปีศาจหญิงที่ตัวใหญ่ น่าเกลียด และมีพลังมหาศาล เธอมีหางมากมายและลูกๆ จำนวนมากที่เรียกว่ายูลแลด ในเรื่อง ‘Red One’ เธอสามารถแปลงร่างเป็นหญิงสาวแสนสวยที่รับบทโดยเคียร์แนน ชิปก้าได้ด้วย
“เราต้องการนักแสดงหญิงที่ดูมีพลังและมีความเป็นปีศาจอายุนับร้อยปี แต่ต้องถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีเสน่ห์และสนุกสนาน” การ์เซียกล่าว “เคียร์แนนมีความเพอร์เฟ็กต์ เธอคือตัวแม่และทุกคนรู้ว่าเธอทำได้ ไกรล่าเหมือนยัยตัวร้ายและเราได้พบกับนักแสดงที่เหมาะจะมารับบทบาทนี้”
แครมปัส ไกรล่า และนิคเคยวิ่งเล่นด้วยกันเมื่อย้อนอดีตกลับไป ชิปก้ากล่าว “แครมปัสและไกรล่าเคยตัวติดกันอยู่ช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายพวกเขาแยกย้ายกันไปคนละทาง การเปลี่ยนแปลงโลกคือภารกิจของไกรล่าที่ต้องทำมานานหลายร้อยปีแล้ว เธอเข้าใจดีว่านิคพยายามช่วยเหลือทุกคนให้มีความสุขมากขึ้น แต่รางวัลจากความดีนั้นยังไม่มากพอ เธอเชื่อแบบนั้น และทุกคนไม่กลัวว่าจะได้ถ่านหนในถุงเท้าที่แขวนเอาไว้อีกต่อไป ไกรล่าจึงพยายามทำสิ่งที่นิคไม่สามารถทำได้ นั่นคือรักษาโลกใบนี้ด้วยความรักอันแข็งแกร่ง”
แผนการสำคัญของเธอคือการขโมยวันคริสต์มาส “เธออยากจะปรับเปลี่ยนใหม่เหมือนแก้ไขความชั่วร้าย ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม” นักแสดงหญิงอธิบาย “ในตัวเธอมีความแค้นที่ทำให้ฉันตัดสินใจหลายอย่างในการถ่ายทอดตัวละครนี้ออกมา ตามตำนานทั่วไปเธอเป็นที่รู้จักว่ากินสามีตัวเองเวลาที่เธอเหนื่อยหน่ายกับพวกเขา มันคือเรื่องตื่นเต้นมาก และสุดท้ายจะมีการผจญภัยที่ได้พบกับความหวังและความรักที่อยู่ในตัวเราทุกคน”
ผู้บังคับใช้กฎหมาย
เมื่อนิคหายตัวไปบรรยากาศก็ดูหดหู่ ไมใช่แค่ทุกคนจะไมได้รับของขวัญเท่านั้น มอร์แกนอธิบาย “แย่จังเลย มีคนอดได้ของเล่นด้วย” เขากล่าว “เมื่อการให้ของขวัญทุกชิ้นคือความหวังเล็กๆ น้อยๆ เมื่อเขาถูกลักพาตัวไป เราจึงอยู่ในสถานการณ์ DEFCON 1”
นับเป็นความรับผิดชอบขององค์กรระดับโลกที่เรียกว่า Mythological Oversight and Restoration Authority (M.O.R.A) ที่คอยสอดส่องเหตุการณ์ต่างๆ ในโลกแห่งตำนาน และคอยจับตาดูสิ่งมีชีวิตตั้งแต่บิ๊กฟุตไปจนถึงกระต่ายอีสเตอร์ทุกหนทุกแห่ง “เขาเป็นองค์กรที่คอยปกป้องดูแล โดยมีหน้าที่รับผิดชอบและคุ้มครองโลกแห่งตำนาน” แคสแดนอธิบาย “หน่วยงาน E.L.F. ถูกควบคุมโดย M.O.R.A. เมื่อเกิดสถานการณ์คับขัน M.O.R.A. จะต้องเข้ามาควบคุม”
โซอี้ ฮาร์โลว์ หัวหน้าแห่ง M.O.R.A. ผู้เต็มไปด้วยความจริงจัง รับบทโดยลูซี่ หลิว แห่งตำนาน “หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยเรื่องมหัศจรรย์และตำนานจากทั่วโลก” หลิวกล่าว “อาจจะทำให้เด็กๆ และผู้ใหญ่บางคนได้พบกับโลกใหม่ให้เชื่อฝังใจ ทุกคนต้องการความมหัศจรรย์บางอย่างในชีวิตของพวกเขา มันคือความสนุกที่ได้เข้าไปอยู่ในโลกแห่งความบริสุทธิ์”
หลิวเคยผ่านการแสดงฉากต่อสู้อันน่ากลัวมาแล้วจากเรื่อง “Charlie’s Angels” จนถึงเรื่อง “The Man with the Iron Fists” เธอเล่าว่าตอนที่ขอแคสแดนว่าอยากฝึกซ้อมฉากผาดโผนสำหรับบทของเธอ เขาไม่เห็นด้วยเลย “ปรากฏว่ามันมีฉากต่อสู้อันยิ่งใหญ่” เธอจำได้ “แต่มันก็สนุกดีและคาดไม่ถึงเลยค่ะ มันวิเศษมาก ฉันรักการแสดงผาดโผนด้วยตัวเอง ฉันรักการดูหนังที่มีการผจญภัยและฉากแอ็คชั่นในเรื่องมาตลอด การได้เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ทำให้ยิ่งู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นค่ะ”
ยินดีต้อนรับสู่หลังคาโลก
ในเรื่อง “Red One” ขั้วโลกเหนือไม่ได้มีหน้าตาเหมือนดินแดนน้ำแข็งอันว่างเปล่าหรือหมู่บ้านสไตล์ยุโรป ผู้ออกแบบฉากฯ บิล บรีสกี้ และทีมงานของเขาจินตนาการถึงภาพเมืองใหญ่ที่มีความทันสมัย ถูกปิดซ่อนตัวบนโลกด้วยโดมที่ถูกบดบังไม่ให้มองเห็นได้ ด้านในจะเป็นเมืองอันงดงามที่ดูเหมือนสร้างขึ้นจากน้ำแข็งและมีแสงสว่างจากแสงเหนือ “ฉากขั้วโลกเหนือเป็นฉากที่สำคัญที่สุดของการทำงานเลย” บรีสกี้กล่าว “เราสร้างโลกในจินตนาการขึ้นมาทั้งใบ เราย้อนกลับไปในช่วงเวลานับร้อยปีจากการค้นหาข้อมูลและยืมหลายไอเดียจากทั่วโลกเพื่อหาความหมายของคริสต์มาส”
นับเป็นการออกแบบที่การ์เซียพูดว่าตรงตามเป้าหมายอันหรูหราของผู้สร้างภาพยนตร์ “ยอดตึกกระจกที่มีแสงแวววาวสูงเหนือกระท่อมเก่าแก่ที่ดูอบอุ่น สิ่งสำคัญของขั้วโลกเหนือคือบ้านสไตล์บาวาเรียนที่เคยเป็นสถานที่ทำงานแห่งแรกของซานต้า เมื่อเวลาผ่านไปเขาได้ขยายการทำงานและสร้างเมืองอันซับซ้อนที่มีตึกสูงระฟ้ามากมาย สถานที่สุดวิเศษที่มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดอาศัยอยู่ เช่น ฮิวแมนนอยด์ โทรล ยักษ์ อะไรก็ตามแต่เราจะเรียกได้ ทั้งหมดทำงานกันอย่างไม่หยุดหย่อน”
แน่นอนว่าเคยมีขั้วโลกเหนือให้เห็นมาก่อนในหนังเกี่ยวกับวันคริสต์มาส จอห์นสันออกความเห็น “และจะมีขั้วโลกเหนืออีกหลายแบบในหนังเกี่ยวกับคริสต์มาสต่อจากเรา ผมมั่นใจ แต่ขั้วโลกเหนือของเราต่างจากที่เคยเห็นมาก่อน มันมีความยิ่งใหญ่ รุ่งเรือง และดูเท่มาก เจคอยากจะทำให้เป็นขั้วโลกเหนือที่เห็นแล้วต้องอุทานออกมาให้ได้มากที่สุด มันวิเศษมากเลย”
บรีสกี้และทีมงานของเขามีอิสระในการค้นหาทางเลือกต่างๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้ภาพลักษณ์ของช่วงวันหยุด “แน่นอนว่ามีหลายประเด็นสำคัญที่เราจะไม่แตะต้อง” เขาสัญญา “พวกสีแดง สีเขียว และต้นคริสต์มาสมีให้เห็นมากพอควร แต่เป้าหมายอันสูงสุดของเราคือสร้างบรรยากาศที่ดูน่าเชื่อถือ และเป็นการตอบคำถามข้อสงสัยในบางเรื่องเกี่ยวกับตำนานโบราณที่มีมา”
ตัวอย่างเช่น เขาถามว่าซานต้าผลิตของขวัญในแต่ะปีและส่งของขวัญภายในคืนเดียวได้อย่างไร? ในยุคของเรามีเทคโนโลยีมากมาย ขั้วโลกเหนือจะเก็บเป็นความลับได้อย่างไร? “เราต้องอาศัยพวกกลไกเครื่องจักรมาอธิบายหลายสิ่ง” บรีสกี้กล่าว “เราต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีพลังมาจากไหน พวกเขาผลิตของเล่นอย่างไรและมีใครทำงานด้านนี้บ้าง เราผลิตภูติและยักษ์รวมถึงอีกหลายตัวละครจากห้องทำงานและออฟฟิศต่างๆ เมื่อเราคิดภาพสิ่งหนึ่งมันจะนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง เช่น เรนเดียร์มาจากที่ไนหและพวกมันบินได้อย่างไร?”
ความสนุกอยู่ที่สเกลอันใหญ่โตมโหฬารสำหรับทุกสิ่ง แคสแดนกล่าว “กวางเรนเดียร์มีขนาดใหญ่เท่าช้างจนน่ากลัว รถลากมีขนาดเท่าเครื่องบินลำเล็ก ทุกสิ่งดูยิ่งใหญ่แต่ผลิตขึ้นมาอย่างมีนัยยะ”
บรีสกี้ออกแบบและสร้างรถลากโดยอาศัยมนต์วิเศษเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้สามารถขนของขวัญทั้งหมดนั้นได้ “มันมีความงดงามยิ่งใหญ่กว่าที่เราจะนึกภาพได้ มีห้องที่ทีมงานทั้งหมดมาช่วยกัน ในการทำงานเรามีโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งหรอกที่จะได้ทำอะไรแบบนั้น มันเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครเท่าที่ผมได้สัมผัสมาเลย”
ตามคำบอกเล่าของ เจ.ดี. ชวอล์ม ผู้ควบคุมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ของภาพยนตร์ รถลากเลื่อนหิมะมีความยาว 40 ฟีตและกว้าง 20 ฟีต “บิล บรีสกี้และผมพัฒนาคอนเซ็ปต์เพื่อทำให้มันใช้งานได้ จากนั้นเราสร้างสิ่งที่เหมือนยานอวกาศสำหรับนิคเพื่อใช้สำหรับออกเดินทาง”
แต่ชิ้นส่วนทั้ง 5 ที่ล็อคติดกันนั้น มันสามารถส่งจากสถานที่แห่งหนึ่งไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งได้โดยรถบรรทุก “มี 2 หลักการที่ใช้สำหรับการยกรถให้ลอยขึ้นมา” ชวอล์มกล่าว “เรามีฐานแกนขนาดใหญ่ทั้ง 6 ชิ้น เหมือนกับเครื่องจำลองการบินของนักบิน เราจะยกรถลากทั้งหมดไปวางไว้บนนั้น มันสามารถยกรถลากเคลื่อนที่ขึ้นลง 6 ฟุต และจับเอียง 45 องศาได้ทุกทิศตามต้องการ สำหรับฉากที่ดูเหมือนอยู่บนพื้น เราจะให้มันเคลื่อนที่ลอยอยู่บนล้อเลื่อนอากาศ เป็นเบาะยางขนาดเล็กที่หมุนรถลากทั้งคันได้เหมือนเรือที่ลอยอยู่กลางอากาศ”