แนว Action, Sci-Fi
เข้าฉาย 16 ธันวาคม 2564
ผู้กำกับ Lana Wachowski
นักแสดง Keanu Reeves Christina Ricci Jessica Henwick
เรื่องย่อ
การหวนสู่โลกที่มีความจริง 2 ด้าน ด้านแรกคือชีวิตประจำวัน ส่วนอีกด้านหนึ่งคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ เพื่อหาคำตอบว่าความจริงของเขาเป็นสิ่งที่จับต้องได้หรือเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจ เพื่อเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง คุณแอนเดอร์สัน ต้องเลือกตามกระต่ายขาวไปอีกครั้ง และหาก โธมัส นีโอ ได้เรียนรู้อะไรขึ้นมา นั่นคือทางเลือก ส่วนภาพหลอนที่เกิดขึ้นยังคงเป็นทางออกเดียวหรือเข้าสู่ เดอะ เมทริกซ์ แน่นอนว่า นีโอ รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่เขายังไม่รู้ว่า เดอะ เมทริกซ์ แข็งแกร่ง ปลอดภัย และอันตรายมากกว่าเดิม
ผลงานจากผู้สร้างภาพยนตร์มากจินตนาการ ลาน่า วาโชว์สกี้ สู่ภาพยนตร์เรื่อง “The Matrix Resurrections” ผลงานเรื่องต่อไปในแฟรนไชส์ที่มีการเฝ้ารอกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการสร้างคำจำกัดความใหม่ ในเรื่องเป็นการกลับมาร่วมงานของนักแสดงเดิมอย่างคีนู รีฟส์ และ แคร์รี่-แอน มอสในบทที่สร้างชื่อเสียงให้พวกเขาอย่างนีโอและทรีนิตี้
ในภาพยนตร์เรื่อง “The Matrix Resurrections” เป็นการหวนสู่โลกที่มีความจริง 2 ด้าน: ด้านแรกคือชีวิตประจำวัน ส่วนอีกด้านหนึ่งคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ เพื่อหาคำตอบว่าความจริงของเขาเป็นสิ่งที่จับต้องได้หรือเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจ เพื่อเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง คุณแอนเดอร์สันต้องเลือกตามกระต่ายขาวไปอีกครั้ง และหากโธมัส… นีโอ… ได้เรียนรู้อะไรขึ้นมา นั่นคือทางเลือก ส่วนภาพหลอนที่เกิดขึ้นยังคงเป็นทางออกเดียวหรือเข้าสู่เดอะ แมทริกซ์ แน่นอนว่านีโอรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่เขายังไม่รู้ว่าเดอะ แมทริกซ์แข็งแกร่ง ปลอดภัย และอันตรายมากกว่าเดิม เดจาวู
รีฟส์กลับมารับบทควบของโธมัส แอนเดอร์สัน/นีโอ ผู้ชายที่เคยรอดมาได้จากเดอะ แมทริกซ์จนกลายเป็นผู้ช่วยชีวิตมนุษยชาติ ซึ่งเขาจะต้องเลือกว่าจะต้องเลือกเส้นทางไหน
มอสรับบทนักรบชื่อดัง ทรีนิตี้… หรือเธอคือทิฟฟานี่ ภรรยาสาวชานเมืองและคุณแม่ลูก 3 ที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์เครื่องแรงเป็นชีวิตจิตใจ?
ยาห์ย่า อับดุล-มาทีน ที่ 2 (“Candyman,” ภาพยนตร์แฟรนไชส์ “Aquaman”) รับบท มอร์เฟียส ผูชาญฉลาดและเป็นที่รู้จักทั่วโลก ผู้ทำหน้าที่เป็นไกด์ให้นีโอ ขณะเดียวกันก็มีจุดมุ่งหมายของตัวเองอันยิ่งใหญ่ในการเดินทางเพื่อค้นหาเรื่องราวของตัวเอง
เจสสิก้า เฮนวิค (ภาพยนตร์ทางทีวี “Iron Fist,” “Star Wars: Episode VII – The Force Awakens”) รับบทแฮคเกอร์บั๊กส์ กระต่ายขาวชื่อดังในภารกิจค้นหาคนที่ใช่ ผู้ที่ยอมอุทิศตัวเองเพื่อมนุษยชาติ และพร้อมรับทุกความเสี่ยงเพื่อค้นหาบุคคลที่เธอเลื่อมใส
โจนาธาน กรอฟฟ์ (“Hamilton,” ภาพยนตร์ทางทีวี “Mindhunter”) รับบท หุ้นส่วนธุรกิจของโธมัส แอนเดอร์สัน ผู้มีลูกเล่น มีความมั่นใจที่มาพร้อมเสน่ห์ รอยยิ้มชวนหลงใหลและสนใจเรื่องเงิน เขามีทุกคุณสมบัติที่คุณแอนเดอร์สันไม่มี
นีล แพทริค แฮร์ริส (“Gone Girl”) รับบทนักบำบัดคุณโธมัส ที่ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับคนไข้ เพื่อทำความเข้าใจสิงที่ซ่อนอยู่ในความฝันและแยกพวกเขาออกจากความเป็นจริง
ปริยังก้า โชปรา โจนัส (ภาพยนตร์ทางทีวี “Quantico”) รับบทสาวผู้มีความฉลาดเกินวัย และสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ ไม่ว่าบรรยากาศจะดูคลุมเครือขนาดไหนก็ตาม
และจาดา พินเค็ตต์ สมิธ (“Angel Has Fallen,” ภาพยนตร์ทางทีวี “Gotham”) กลับมารับบท ไนโอบี แม่ทัพผู้โหดเหี้ยมที่เคยต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของไซออน และตอนนี้เห็นความอยู่รอดของผู้คนผ่านแววตาของเธอ แม้ว่าจะมีเซนส์ในเรื่องที่ยากจะเชื่อและชวนสงสัยเกี่ยวกับการกลับมาของนีโอ
ลาน่า วาโชว์สกี้กำกับฯ จากบทภาพยนตร์ของวาโชว์สกี้และเดวิด มิตเชลล์และอเล็กซานเดอร์ ฮีมอน สร้างอิงจากตัวละครของพี่น้องวาโชว์สกี้ อำนวยการสร้างฯ โดยแกรนท์ ฮิลล์, เจมส์ แม็คแทก และ ลาน่า วาโชว์สกี้ อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยการ์เร็ตต์ แกรนท์, เทอร์รี่ นีดแฮม, ไมเคิล ซัลเว็น, เจสซี่ เออร์แมน และ บรูซ เบอร์แมน
ทีมงานฝ่ายสร้างสรรค์ของวาโชว์สกี้ ได้แก่ ผู้ร่วมงานจาก “Sense8” ผู้กำกับภาพ แดเนียล มาสแซคซีซี่ และ จอห์น โทลล์ ผู้ออกแบบฉากฯ ฮิวจ์ เบทอัพ และ ปีเตอร์ วัลโพล ผู้ลำดับภาพ โจเซฟ เจ็ตต์ แซลลี่ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ลินด์เซย์ พักห์ ผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ แดน กลาส และผู้ประพันธ์ดนตรี จอห์นนี่ คิลเม็ค และ ทอม ทีคแวร์
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์ร่วมกับ Village Roadshow Pictures และ Venus Castina Productions เรื่อง “The Matrix Resurrections” จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส จะฉายในโรงภาพยนตร์เริ่มวันที่ 16 ธันวาคม 2021
สิ่งที่เข้ามาอยู่ในความคิดเมื่อพยายามอธิบายบรรยากาศฉากภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของลาน่า วาโชว์สกี้: เดจาวู
หรืออาจจะไม่ใช่ ผมดูอย่างไม่รู้เรื่องอะไรในช่วงที่นิ้วมือของโธมัส แอนเดอร์สัน (คีนู รีฟส์) เคลื่อนไหวบนคีย์บอร์ดและมีแสงไฟสาดส่องจากพื้นถึงเพดาน ดวงตาของเขาที่จ้องมองข้อมูลบนจอคอมพิวเตอร์ไปมาดูสว่างสดใส ผมอดคิดถึงตอนที่ยาเม็ดสีแดงดึงเขาออกมาจากชีวิตในคอกกั้นที่ทำงานสู่โลกแห่งหายนะอันสมจริง ฉะนั้นการที่ได้มาอยู่ที่นี่ตอนนี้… มันค่อนข้างน่าปวดหัวแล้ว นี่ไม่ใช่แฮคเกอร์ผู้เศร้าโศกลึกลับที่อยู่หน้าจอยุคมิลเลนเนียมเป็นครั้งแรก แต่ตอนนี้เรากำลังพบคุณแอนเดอร์สันที่อยู่ในชุดทำงานที่ดูสบาย: เสื้อฮู้ด รองเท้าผ้าใบ ผมถักดำยาว ทำให้เราตั้งคำถามกลับไปกลับมา นี่คือปัจจุบันหรือนี่คืออนาคตกันแน่? นี่คือโลกแห่งความจริงหรือเดอะ แมทริกซ์? นี่คือโธมัส แอนเดอร์สันหรือนีโอผู้ช่วยชีวิตในโลกคอมพิวเตอร์เวอร์ชันที่ตายไป?
ตอนนี้คุณคงเข้าใจความหมายคำว่าอาจจะของผมแล้ว หรือคุณอาจจะไม่เข้าใจอะไรเลย มีกวีที่เอเมอร์สันเคยกล่าวไว้และผมพยายามถอดใจความออกมา มันสอดคล้องกับความกลัวที่อยู่ในจินตนาการว่าหากจินตนาการที่มีความสร้างสรรค์จนรวมโลกหลายใบอยู่ในโลกอีกหลายใบได้ล่ะ นั่นเป็นการเปิดโอกาสให้ย้อนกลับไปสร้างคำจำกัดความใหม่ให้ผลงานที่เคยสร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า?
“มันมีไอเดียที่สอดคล้องกัน” วาโชว์สกี้กล่าวรำพึง “บางทีอาจมาจากพ่อแม่หรือความเป็นผู้นำ ซึ่งฉันรู้สึกชื่นชมตรงนั้นค่ะ ฉันคิดว่าหลายคนสร้างศิลปะอันยอดเยี่ยมขึ้นมาได้ ฉันเองก็สร้างขึ้นมาได้จากตรงนั้น แต่ก็มาถึงช่วงเวลาที่ฉันไม่สามารถสร้างศิลปะแบบนั้นขึ้นมาได้อีกแล้ว”
นี่เป็นการปฏิเสธว่าความเคยชินไม่ใช่เคล็ดลับ แต่กลับหมายถึงการค้นพบ การค้นหาสิ่งแปลกใหม่ เพื่อความสอดคล้องกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดของเธอ ผู้กำกับฯ เลือกใช้เทคนิคการทำงานแบบไม่มีการเตรียมตัวมาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบในภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องดังของฮอลลีวูด: “ฉันอยากสร้างความตื่นเต้นแบบนั้นขึ้นมาอีกครั้ง และทำให้ฉันตื่นเต้นไปพร้อมกับเพื่อนๆ ทุกคนด้วย”
การทำงานร่วมกับเพื่อนๆ เช่น ผู้อำนวยการสร้างฯ และเพื่อนร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน เจมส์ แม็คทีก และ แกรนท์ ฮิลล์ ผู้กำกับฯ เล่าว่าพวกเขาได้สร้างความแปลกใหม่ให้ “The Matrix Resurrections” ตั้งแต่แรกเริ่ม “เราแค่พูดว่า ‘เราจะไม่ทำเหมือนที่เคย เราจะไม่มีการเตรียมตัวกันก่อนถ่ายทำ’” วาโชว์สกี้เล่าย้อนไป “ฉากไล่ล่าบนถนนในเรื่อง Reloaded มีการวางแผนเตรียมไว้อย่างดี มันเป็นฉากที่น่าทึ่งเหลือเชื่อมาก ตอนอายุแค่นั้นฉันยังถ่ายทำแบบอื่นไม่ได้ แต่ตอนนี้ฉันรู้เรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์ทุกซอกทุกมุมมากขึ้น ทำให้เราถ่ายทำฉากไล่ล่าได้อย่างดุเดือดและบ้าคลั่งพร้อมกับนักแสดงสมทบนับพันคนได้ เราใช้เวลาถ่ายทำกัน 6 คืนด้วย”
วาโชว์สกี้ต้องใช้เวลากว่าจะพัฒนาเป็นผู้สร้างภาพยนตร์มากความสามารถอย่างทุกวันนี้ นักแสดงในผลงานแฟรนไชส์ คีน รีฟส์ ได้เปิดเผยให้ฟังว่า “ผมเล่าถึงลาน่า วาโชว์สกี้ ผู้สร้างภาพยนตร์ได้ และสามารถพูดถึงผู้สร้างภาพยนตร์ที่ผมเคยร่วมงานเมื่อปี 2001 ได้ ซึ่งต่างกันอย่างลิบลับ” รีฟส์กล่าว “อย่างแรกเลยคือเธอได้ร่วมงานกับจอห์น โทลล์ เขาเป็นคนสอนเธอเรื่องแสงธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องสำคัญกับภาพยนตร์ไตรภาคต้นฉบับเลย และผมกับวาโชว์สกี้ผูกพันกับการอยู่หลังมอนิเตอร์มาด้วยกัน ตอนนี้การร่วมงานกับลาน่ากลายเป็นเธออยู่หน้ามอนิเตอร์แล้ว ตอนนี้เราเลยมีศิลปินที่สนใจเรื่องแสงธรรมชาติ ผู้ที่อยากอยู่ใกล้ชิดกับกล้อง อยากเอาตัวเองผูกติดกับกล้องและกลายเป็นอีกคนที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมเห็นแล้วรู้สึกเจ๋งมากเลยครับ”
รีฟส์ยังเล่าถึงความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องใหม่ด้วยการตั้งคำถามน่าสนุกเอาไว้ว่า “ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ผมรักความรู้สึกนี้ ยากที่จะเจอหนังที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นได้ ผมรู้สึกสบายใจที่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรือ? นีโอไม่ตาย? ที่นั่นไม่สงบสุข? ในเรื่อง Revolutions พวกเครื่องจักรมีปัญหา พวกเขาต้องติดอยู่ในนั้นและมีชีวิตรอด โดยที่จะต้องพาผู้คนออกไปจากเดอะ แมทริกซ์ให้ได้ ในซีออนทุกคนพากันเต้นรำและส่งเสียงเชียร์ ทุกอย่างดูดีมาก… สิ่งที่เราได้เรียนรู้คือทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิด มันมีความน่าสนใจจริงๆ”
เมื่อพูดถึงเรื่องความแตกต่างที่น่าสนใจ ในเรื่อง Resurrections มีนักแสดงหน้าใหม่หลายคน โจนาธาน กรอฟฟ์ เป็นแฟนพันธุ์แท้ Matrix มาอย่างยาวนาน รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ก้าวสู่โลกดิจิตอลที่วาโชว์สกี้สร้างขึ้นมา “การทำงานที่ไม่รู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่ แต่กลับรู้สึกได้ถึงความสร้างสรรค์ร่วมกับคนอย่างลาน่า คีนู… มันคือเรื่องที่ราวกับความฝัน ได้แสดงจริงในแบบที่ผมไม่เคยทำมาก่อน มันสนุกมากเลยครับ”
นอกจากหลายเหตุผลที่เราควรไปดูหนังเพื่อทำความเข้าใจอย่างเต็มที่แล้ว การถ่ายทอดตัวละคร มอร์เฟียส ที่ปรึกษาของนีโอในภาพยนตร์ต้นฉบับ วาโชว์สกี้ได้ยกให้เป็นหน้าที่ของยาห์ย่า อับดุล-มาทีนที่ 2 เขาเป็นแฟนมาอย่างยาวนานอีกคนหนึ่ง และพบแรงบันดาลใจในความซับซ้อนของเรื่อง Resurrections เป็นการส่วนตัว
“คุณจะได้แรงบันดาลใจจากการดูหนังเรื่องนี้หลายมุมเกี่ยวกับเรื่องมนุษย์” อับดุล-มาทีนกล่าว “ถ้ามันทำให้เราเกิดการพูดคุยกันว่าอะไรจริงและไม่จริง ผมคิดว่าคุณคงพอเข้าใจแล้วว่าเดอะ แมทริกซ์คืออะไร มันเป็นสิ่งที่มีความหมาย วันหนึ่งผมอาจจะบอกคุณได้ว่ามันเป็นการผจญภัยเกี่ยวกับอะไร หรือผมอาจจะบอกไม่ได้ แต่ผมแน่ใจว่าเราผ่านหลายทฤษฎีมามากพอให้พูดคุยเรื่องนั้นกันได้อย่างสนุก นั่นล่ะความสนุกของหนังเหล่านี้”
แฟนภาพยนตร์อีกกลุ่มหนึ่งไม่รู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นแคร์รี่-แอน มอสกลับมารับบททรีนิตี้ เชนเดียวกับอับดุล-มาทีน มอสรู้สึกว่าโปรเจ็กต์มีความสมจริงมากขึ้น และเธอเกิดการตั้งคำถามถึงการอยู่ในโลกใบนี้ มันคือเรื่องจริงหรือการเลียนแบบขึ้นมากันแน่
“ผู้คนคอยถามฉันว่า ‘จะมี Matrix ภาคอื่นอีกมั้ย?’” มอสกล่าว “และฉันคิดว่า ‘ไม่หรอก ไม่มีแน่ๆ’ ฉันไม่คิดมานานหลายปีแล้วว่าเราจะสร้างเรื่องนี้กันอีกครั้ง บางครั้งฉันสงสัยว่าตัวเองกำลังอยู่ในเดอะ แมทริกซ์เพื่อสร้างเดอะ แมทริกซ์หรือเปล่า บางทีนี่อาจเป็นโลกแห่งความฝันของฉัน เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อมากค่ะ”
มอสเล่าต่อว่า “ฉันคิดว่าเนื้อเรื่องจะทำให้ทุกคนต้องอึ้งค่ะ มันมีความน่าสนใจเพราะมีทั้งบรรดาผู้ที่เคยดูหนังภาคแรกๆ มาแล้ว และคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อายุน้อยกว่ามาร่วมสำรวจโลกของเดอะ แมทริกซ์เป็นครั้งแรก มันต้องน่าตื่นเต้นมากแน่ๆ”
ในส่วนของความคาดหวังและการตอบสนองผู้ชมกลุ่มแรกของวาโชว์สกี้ ผู้ที่โตมาพร้อมกับ The Matrix ได้ดูตั้งแต่ช่วงที่หนังฟอร์มยักษ์แทรกซึมเข้าสู่กระแสความนิยม บางคนเฝ้ารอให้นีโอและทรีนิตี้กลับมาพบกันอีกครั้ง ซึ่งผู้ลำดับภาพ โจเซฟ เจ็ตต์ แซลลี่ ได้ลึถึงเรื่องนี้ว่าการสร้างความสัมพันธ์บนหน้าจอระหว่างมอสและรีฟส์ขึ้นมามีเทคนิคอยู่ที่ “เราพยายามสร้างช่วงเวลาของทั้งคู่ขึ้นมา เพราะครั้งแรกที่พบกันพวกเขาต่างไม่รู้จักกัน และในความทรงจำของเรามีเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นบนหน้าจอ นั่นคือความเป็นนีโอและทรีนิตี้ แต่ตอนนี้ผู้ชมต้องมาตั้งคำถามเรื่องนั้น ตลอดทั้งเรื่องเราพยายามสร้างช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอเริ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่าง นั่นล่ะคือความมหัศจรรย์ ครั้งแรกที่พวกเขาสัมผัสกัน จับมือกันครั้งแรก…. มันมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นมา เราพยายามจับคู่พวกเขา และนีโอต้องหาคำตอบว่าจะทำให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เธออาจจะไม่ต้องการก็ได้ มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตพวกเรา ‘เขารักฉันมั้ย? เธอรักฉันมั้ย? สิ่งที่ฉันคิดไว้คือเรื่องจริงมั้ย?’”
การตั้งคำถามของแซลลี่ได้รวบรวมเข้าไว้ในเรื่อง Resurrections และในตัวของเดอะ แมทริกซ์เอง: สิ่งที่ฉันคิดไว้มันคือเรื่องจริงหรือเปล่า? มันแทรกซึมอยู่ในใจความหลักของภาพยนตร์ คอนเซ็ปต์และจิตวิญญาณของเรื่อง คำถามแรกที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องปกติที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวอันซับซ้อน มันคือความเป็นธรรมชาติ The Matrix Resurrections เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับโลกสมมุติที่อิงจากโลกแห่งความจริง (หรือเกี่ยวกับโลกแห่งความจริงที่อิงจากโลกสมมุติกันแน่?) ซึ่งภาพยนตร์อิงจากโลกแห่งความจริง อย่างที่ผมพูดเอาไว้ว่าอาจจะ… อาจจะไม่ใช่
นั่นอาจเป็นกุญแจสำคัญ การที่ไม่สามารถล่วงรู้ถึงอัลกอริธึม บางทีโลกสมมุติอาจล่มสลายลงหากเรารู้ความจริง บางทีความซับซ้อนอาจเป็นโค้ดเริ่มต้นเดียวระหว่างเรากับความจริง บางทีมันอาจไม่เกี่ยวกับเรื่องการทำความเข้าใจแต่เป็นการเข้าไปสัมผัสประสบการณ์มากกว่า
เมื่อกองถ่ายเสร็จสิ้นการถ่ายทำ ผมได้สืบหาคำตอบเรื่องการทดลองที่แสนฉลาดจากมอส ทุกคำถามที่มีและคำตอบที่ทำให้ผมหลงอยู่ในการออกแบบของวาโชว์สกี้ เธอขัดจังหวะผมและพูดต่ออย่างเรียบง่ายว่า “ไมต้องรับรู้พวกความอัจฉริยะอะไรที่เกิดขึ้นแล้ว แค่ใช้ความรู้สึกกับมัน… ฉันอดใจรอดูไม่ไหวแล้วว่ามันรวมกันแล้วจะเป็นแบบไหน”
ข้อมูลจริงเรื่องต่างๆ
สำหรับฉากขับรถไล่ล่าช่วงค่ำคืนใจกลางเมืองซานฟรานซิสโกในเรื่อง “The Matrix Resurrections” กองถ่ายต้องดูแลความปลอดภัยระหว่างถ่ายทำเป็นระยะทาง 12 ช่วงตึก
ในกองถ่าย “The Matrix Resurrections” มีการใช้กล้อง Red Ranger ถ่ายทำ รวมถึงโมเดลใหม่ของ Red ที่มีชื่อว่าว่า Komodo ระหว่างถ่ายทำฉากต่อสู้ฉากหนึ่ง กล้อง Komodo ต้องเข้าใกล้รถที่ถูกไฟไหม้จนกล้องละลาย แต่สามารถกู้การ์ดของกล้องได้ ทำให้กองถ่ายมีภาพฟุตเทจ
วันหนึ่งระหว่างการถ่ายทำ “The Matrix Resurrections” บนถนน Montgomery Street ของซาน ฟรานซิสโก ระหว่างที่คีนู รีฟส์ออกไปจากฉาก เขามองไปบนตึกออฟฟิศที่อยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม บนหน้าต่างของออฟฟิศด้านบนมีกระดาษโน้ตแปะเป็นคำสะกดเอาไว้ว่า “เรารักคีนู”
ฉากจริงของร้านกาแฟ Simulatte ที่พบโธมัส แอนเดอร์สันกับเพื่อนร่วมงานของเขาได้บ่อยๆ ในเรื่อง “The Matrix Resurrections” เป็นร้าน Joe and the Juice ที่ตกแต่งขึ้นมาใหม่ โลโก้ร้าน The Simulatte ออกแบบเองโดยลาน่า วาโชว์สกี้
ในเรื่อง “The Matrix Resurrections” มีไข่อีสต์เตอร์เป็นหน้าคน (บางคนอยู่ท่ามกลางฝูงชน) ซึ่งรวมถึง จอห์น เกต้า ผู้ประดิษฐ์วิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ของเรื่อง “The Matrix” ที่ได้รับรางวัล Oscar และผู้ชำนาญด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่เข้าชิงรางวัล Oscar จากเรื่อง “Reloaded” และ “Revolutions” คิม ไลเบรรี่ นายกเทศมนตรีซาน ฟรานซิสโก ลอนดอน บรีด และนักแสดง ทอม ฮาร์ดี้
ในเรื่อง “The Matrix Resurrections” ตึกที่คีนู รีฟส์ละแคร์รี่-แอน มอสกระโดดพุ่งออกไปมีความสูง 43 ชั้น 565 ฟีต ซึ่งเป็นตึกบนถนน Montgomery Street กลางเมืองซาน ฟรานซิสโก ลาน่า วาโชว์สกี้เลือกตึกจากบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ขึ้น รวมถึงความได้เปรียบของดาดฟ้าที่เห็นน้ำ สะพานโกลเด้น เกท และเส้นขอบฟ้า
สำหรับการเตรียมอุปกรณ์ของฉากการต่อสู้สำคัญในเรื่อง “The Matrix Resurrections” มีการขึงสายเคเบิลจากจุดที่ต้องกระโดดไปยังดาดฟ้าของตึกที่อยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องอาศัยโดรนและลงมือทำในช่วงตี 5 ถึง 6 โมงเช้า มีการใช้เครื่องยก 4 ตัวสำหรับ “ควบคุม” นักแสดงในฉาก
คีนู รีฟส์และแคร์รี่-แอน มอส เริ่มเตรียมตัวสำหรับฉากผาดโผนสำคัญในเรื่อง “The Matrix Resurrections” โดยการฝึกใช้อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นในสถานที่ฝึกซ้อมใน Alameda รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นเวลาราว 1 เดือนก่อนถ่ายทำฉากนั้น มีการขึงลวดสูงจากพื้น 9 ฟีต ระหว่างที่นักแสดงฝึกเคลื่อนไหวให้ชิน ลวดจะถูกยกขึ้นสูง 30 ฟีตและ 50 ฟีตในเวลาต่อมา และหลังจากนั้นลวดได้ขึ้นไปอยู่ด้านบนสุดของตึก
ผู้ควบคุมด้านการแสดงผาดโผนในเรื่อง “The Matrix Resurrections’” สก็อตต์ โรเจอร์สได้สร้างความมั่นใจในการแสดงผาดโผนด้วยการแสดงเป็นตัวอย่าง นักแสดงผาดโผนหญิงที่ควบคุมด้านการกระโดดคือลูกสาวของโรเจอร์ เอลล่า แอน โรเจอร์ส โดยโรเจอร์สได้เล่าว่า “เอลล่าอยากทำ เธออยากทดสอบทุกอย่างและอยากลองแสดงจริง เธอมีขนาดตัวเท่ากับแคร์รี่-แอน ซึ่งเป็นโอกาสที่จะบอกกับทุกคนได้ว่าผมมีความมั่นใจ 100%”
ฉากต่อสู้ในเรื่อง “The Matrix Resurrections” เน้นไปที่กังฟู โดยที่ผู้ออกแบบท่าการต่อสู้ โจนาธาน ยูเซบิโอะ จะใส่ศิลปะการต่อสู้ของจีนเพิ่มขึ้น เป็นการรวมสไตล์การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว (วูชู) และลงตัวกับจินตนาการของผู้สร้างฯ ลาน่า วาโชว์สกี้ที่ยืดขยายออกไป เมื่อฉากการต่อสู้เหลือเพียงแค่การเผชิญหน้ากัน 2 คน การต่อสู้จะลดลูกเล่นลง จากการต่อสู้ที่รวดเร็วของกังฟูเหลือเพียงการทะเลาะของผู้ชาย 2 คน
สำหรบันักแสดง “The Matrix Resurrections” เจสสิก้า เฮนวิค ที่รับบทบั๊กส์ เธอต้องฝึกซ้อมร่างกายสำหรับบทนี้เกือบ 1 ปีก่อนการถ่ายทำ โดยมีการฝึกท่าทางการต่อสู้เพิ่มอีก 3 เดือนในช่วงนั้น
ยาห์ย่า มาทีน-อับดุล ที่ 2 ผู้รับบทมอร์เฟียสในเรื่อง “The Matrix Resurrections” ตั้งใจกับการคาร์ดิโอและฝึกความยืดหยุ่นในการออกกำลังกายก่อนการถ่ายทำ เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายสำหรับฉากการต่อสู้แบบผสมผสานที่อยู่ในบท
สตูดิโอบาเบลส์เบิร์กที่ถ่ายทำ “The Matrix Resurrections” ในเบอร์ลินตั้งชื่อฉากที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาว่า “The Rainbow Stage” เพื่อให้เกียรติลาน่าและลิลลี่ วาโชว์สกี้
ระหว่างการถ่ายทำ “The Matrix Resurrections” ที่เบอร์ลิน ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของรีฟส์ “Bill & Ted Face the Music” ได้มีการฉายและนักแสดงได้ทำการจองบัตรชม และเหมารอบฉายสำหรับนักแสดงและทีมงานทั้งหมด
ผู้กำกับฯ / ผู้ร่วมเขียนบทฯ / ผู้อำนวยการสร้างฯ “The Matrix Resurrections’” ลาน่า วาโชว์สกี้ ได้รวบรวมผู้ร่วมงานเก่าจากซีรีส์เรื่อง “Sense8” ของเธอและลิลลี่ วาโชว์สกี้มาร่วมงานด้วย รวมถึงนักแสดงหลายคน เช่น เอเรนดิร่า อิบาร์ร่า, โทบี้ ออนวูเมียร์, แม็กซ์ ไรเมลต์ และ ไบรัน สมิธ พร้อมด้วยทีมงานที่มาเป็นผู้อำนวยการสร้างฯ แกรนท์ ฮิลล์ ผู้เขียนบทฯ เดวิด มิตเชลล์, อเล็คซานเดอร์ ฮีมอน ผู้กำกับภาพ จอห์น โทลล์ ผู้ลำดับภาพ โจเซฟ เจ็ตต์ ผู้ออกแบบฉาก ฮิวจ์ เบทอัพ, ปีเตอร์ วัลโพล ผู้ประพันธ์ดนตรี จอห์นนี่ คิลเม็ค, ทอม ทีคแวร์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ลินด์เซย์ พิวจ์ และผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ แดน กลาส รวมถึงอีกหลายคน