DC League of Super-Pets

ประเภท  แอนิเมชั่น / แอคชั่น / ผจญภัย
ให้เสียงพากย์โดย  ดเวย์น เดอะร็อก จอห์นสัน, เควิน ฮาร์ต, วาเนสซา เบเยอร์
กำกับโดย  จาเรด สเติร์น, แซม เลอวีญ
กำหนดฉาย  4 สิงหาคม 2022
ความยาว  96 นาที

เรื่องย่อ

ในภาพยนตร์ “DC League of Super-Pets” เป็นเรื่องราวของ ซูเปอร์ด็อกคริปโต เป็นเพื่อนซี้แยกไม่ขาดกับซูเปอร์แมนขนาดที่มีพลังวิเศษและต่อสู้กับคดีอาชญากรรมในเมโทรโพลิสเคียงข้างกัน แต่วันหนึ่งซูเปอร์แมนกับสมาชิกทีมจัสติซถูกลักพาตัวไป คริปโต จำต้องรวบรวมกำลังพลจากที่พักพิง ทั้ง หมาล่าเนื้อเอซ หมูหน้าย่นพีบี เต่าเมอร์ตัน  และกระรอกชิป พร้อมให้เหล่าสหายค้นพบพลังวิเศษของตัวเองและช่วยเหลือเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ให้ได้

DC League of Super-Pets

ให้เสียงพากย์โดย

ดเวย์น เดอะร็อก จอห์นสัน พากย์เป็น คริสโต
เควิน ฮาร์ต พากย์เป็น เอซ
วาเนสซา เบเยอร์ พากย์เป็น พีบี
นาตาชา ลีโอนน์ พากย์เป็น เมอร์ตัน
ดีเอโก ลูนา พากย์เป็น ชิป
เคท แม็กคินนอน พากย์เป็น ลูลู่
จอห์น คราซินสกี้ พากย์เป็น ซูเปอร์แมน
คีอานู รีฟส์ พากย์เป็น แบทแมน
จามีล่า จามิล พากย์เป็น วันเดอร์วูแมน
โอลิเวียน ไวล์ด พากย์เป็น ลูอิส เลน
จอห์น เออร์ลีย์ พากย์เป็น เดอะแฟลช
เดวีด ดีกส์ พากย์เป็น ไซบอร์ก

ดเวย์น จอห์นสัน รับบทให้เสียงพากย์ คริปโต ซูเปอร์ด็อกในภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยแอนิเมชั่นจากวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส เรื่อง “DC League of Super-Pets” ของผู้กำกับฯ จาเร็ด สเติร์น   

นักแสดงผู้มาให้เสียงพากย์ในเรื่องยังรวมถึงเควิน ฮาร์ท (“Jumanji” และ “Secret Life of Pets”), เคท แม็คคินนอน  (“Saturday Night Live,” “Magic School Bus Rides Again”, “Ferdinand”), จอห์น คราซินสกี้ (“Quiet Place”, “Free Guy”), วาเนสซ่า เบเยอร์ (“Saturday Night Live,” “Office Christmas Party,” “Trainwreck”), นาตาชา  ลีโอนน์ (“Show Dogs,” “Ballmastrz 9009”), ดิเอโก้ ลูน่า (“Rogue One: A Star Wars Story,” “Maya and the Three”), มาร์ค มารอน (“Joker,” “GLOW”), โธมัส มิดเดิลดิตช์ (“Godzilla: King of the Monsters,” “Captain Underpants: The First Epic Movie”), เบ็น ชวาร์ตซ (“Sonic the Hedgehog,” “Duck Tales”) และคีนู รีฟส์ (“Matrix” และ “John Wick”)

ในเรื่อง “DC League of Super-Pets” คริปโต เดอะ ซูเปอร์ด็อก และซูเปอร์แมนเป็นเพื่อนซี้กัน มีการแชร์พลังวิเศษกันและต่อสู้กับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในเมืองอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กัน เมื่อซูเปอร์แมนและสมาชิกจัสติส ลีกที่เหลือถูกลักพาตัว คริปโตต้องโน้มน้าวแก๊งค์หมาจรจัด เอซเจ้าหมาล่าเนื้อ พีบีหมูพุงโต เต่าเมอร์ตัน และกระรอกชิพมาเรียนรู้พลังใหม่ของตัวเอง และช่วยเขาทำการช่วยเหลือเหล่าซูเปอร์ฮีโร่

                สเติร์น นักเขียนบท/ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากภาพยนตร์เรื่อง “LEGO®” มากำกับฯ แอนิเมชั่นเรื่องแรก จากบทที่เขาเขียนร่วมกับจอห์น วิททิงตัน ที่ร่วมงานกันเป็นประจำ สร้างอิงจากตัวละครของดีซี ซูเปอร์แมนที่สร้างโดยเจอร์รี่ ซีเกล และ โจ ชูสเตอร์ อำนวยการสร้างฯ โดยแพทริเซีย ฮิคส์, ดเวย์น จอห์นสัน, แดนี่ การ์เซีย, ไฮแรม การ์เซีย และ จาเร็ด สเติร์น อำนวยการสร้างบริหารฯ โดย จอห์น รีควา, เกล็นน์ ฟิคาร์ร่า, นิโคลาส สตอลเลอร์, อลิสัน แอ็บเบท, คริส ลีอาฮี, ชารอน เทย์เลอร์ และ คอร์ทีเนย์ วาเลนติ

                ทีมงานของสเติร์นได้รวมถึงผู้ออกแบบฉาก คิม เทย์เลอร์ (“The LEGO® Ninjago Movie”) และผู้ลำดับภาพ เดวิด อีแกน (“Game Night,” “Vacation”) และโจแอน รีเยส (“Teen Titans GO!” “Young Justice”) ดนตรีโดยสตีฟ จาบลอนสกี้ (ภาพยนตร์ “Transformers”)

                วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์จาก A Seven Bucks Production เรื่อง “DC League of Super-Pets” ภาพยนตร์จัดจำหน่ายโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ในโรงภาพยนตร์ต่างประเทศเริ่ม 18 พฤษภาคม 2022 และในอเมริกาเหนือวันที่ 20 พฤษภาคม 2022

รายละเอียดการถ่ายทำ

เพียงแค่พวกเขามีความพิเศษ… ใช่ว่าจะเป็นฮีโร่ได้

การรวมตัวของฮีโร่โนเนมจากดีซีอย่างคริปโตและเอซ ในภาพยนตร์เรื่อง “DC League of Super-Pets” เป็นความสนุกสนานที่มีฉากแอ็คชั่น การผจญภัยผสมผสานระหว่าง 2 สิ่งที่ทุกคนชื่นชอบ คือสัตว์เลี้ยงและซูเปอร์ฮีโร่ของดีซี! ขณะที่สุนัขทั้ง 2 พาย้อนกลับไปช่วงกลางยุค 1950 ในหนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์จับพวกเขามารวมตัวกันครั้งแรกบนหน้าจอผ่านเนื้อเรื่องที่ผู้ชมทุกวัยจะเข้าถึงได้

คริปโต สุนัขตัวเล็กขโมยกระสวยอวกาศที่พาคริปโตเนียนอย่างคาล-เอล ซึ่งในที่สุดได้กลายเป็นฮีโร่ทรงพลังที่สุดในโลกอย่างซูเปอร์แมน! พวกเขาโตมาด้วยกันและคริปโตอาจจะเป็นเพื่อนซี้ที่สุดของบุรุษเหล็ก แต่คริปโตรู้จักแค่ชีวิตแบบซูเปอร์เพ็ท ไม่รู้ว่าสุนัขธรรมดาเป็นอย่างไร หรือไม่เคยผูกมิตรกับสัตว์ 4 ขาชนิดใดเลย เมื่อคริปโตรู้ว่าซูเปอร์แมนถูกหนูตะเภาและลูลู่จอมวายร้ายลักตัวไป คริปโตกลับไร้พลังและกลายเป็นสัตว์ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

โชคดีที่พวกเขาได้รับพลังจากคริปโตไนท์สีส้มที่อยู่ในที่พักพิงจากแผนการอันชั่วร้ายของลูลู่ เอซ สุนัขล่าเนื้อ พีบี เจ้าหมูปุ้มปุ้ย เมอร์ตัน เจ้าเต่า และชิป กระรอก กลายเป็นสัต์ที่มีพลังที่สุดบนโลก โชคร้ายที่คริปโตเข้ากับพวกเขาได้ไม่เก่ง เขาต้องพยายามทำหลายอย่างเพื่ออ้อนวอนขอความช่วยเหลือซูเปอร์แมน จนกลายเป็นเพื่อนซี้ในเดอะ จัสติส ลีก ก่อนที่ลูลู่จะจัดการกับพวกเขาอย่างยุติธรรมในแบบของเธอ

นอกจากการนำตัวละครชื่อดังของ DC Universe มารวมตัวกันแล้ ในภาพยนตร์ยังมีทีมนักแสดงชื่อดังมาร่วมงานด้วย เช่น ดเวย์น จอห์นสัน ผู้รับบทคริปโต และเควิน ฮาร์ท ผู้รับบทเอซ ไม่มีคู่ไหนจะส่งพลังถึงกันได้ดีไปกว่านี้แล้ว

จอห์นสันทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างฯ ในเรื่องภายใต้ชื่อ Seven Bucks ของเขาเองได้เล่าว่า “เมื่อเราคิดภาพว่านี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร มันคือเรื่องราวสัตว์เลี้ยงของซูเปอร์ฮีโร่ และเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการภาพยนตร์!? มันมีความโดดเด่นและแหวกแนวจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปทั้งหมด สัตว์เลี้ยงแบบไหนกันที่ซูเปอร์ฮีโร่ DC คนโปรดจะเลี้ยง ตั้งแต่ซูเปอร์แมน วันเดอร์วูแมน แบทแมน แฟลช ไปจนถึงกรีนแลนเทิร์น?  ครั้งแรกที่ได้ยินไอเดียนี้ ผมไม่ลังเลอะไรเลย 100% พอมานึกถึงผู้รับบทจาก Warner Bros. จนถึง DC และความรักที่เรามาต่อ [บริษัทผลิตภาพยนตร์ของเรา] Seven Bucks Productions มีผลงานซูเปอร์ฮีโร่และแอนิเมชั่นออกมา เราก็พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์และคว้าโอกาสนั้นไว้เลย”

            ตัวละครเอซของฮาร์ทเป็นจ่าฝูงในสถานที่พักพิง นักแสดงชายเองก็รู้สึกอินกับเรื่องราวทันทีเช่นกัน “นี่เป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่มาพร้อมตัวละครระดับบิ๊ก ผมรู้สึกว่ามีหลายช่วงในบทที่อ่านแล้วเห็นภาพชัดขึ้นมา พวกเขาได้คนที่เหมาะกับตำแหน่งต่างๆ และเนื้อเรื่องก็ทำให้เราสนใจมาก พวกเขาคัดเลือกนักแสดงได้ดี นั่นคือสิ่งที่เราต้องการจากหนังแนวนี้ การได้เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องรู้สึกพิเศษมาก คุณจะรู้สึกได้จริงๆ ว่า ‘เฮ้ เรามีความพิเศษอยู่ที่นี่แล้ว’”

            จาเร็ด สเติร์น ผู้กำกับฯ และผู้ร่วมเขียนบทกับจอห์น วิททิงตันเปิดเผยถึงไอเดียของเรื่องที่เกิดขึ้นจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยความหวัง “ภรรยาของผมเป็นอาสาที่ศูนย์พักพิงสัตว์ ผมเคยไปช่วยที่นั่นวันหนึ่ง ตอนที่ไปผมเห็นลูกแมวที่น่ารักอยู่หน้าห้อง การรับเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าตัวไหนเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก ผมรู้สึกว่าลูกแมวเหล่านั้นต้องถูกรับเลี้ยงในอีกไม่นานแน่ แต่พอมาที่ด้านหลังจะมีสัตว์ที่อายุมากขึ้น รวมถึงสัตว์อื่นที่ควรอยู่สถานที่พักพิงระยะหนึ่ง พวกมันดูอ่อนแรงมาก มันคงเป็นเรื่องที่ดีมากหากพวกเขาได้รับการดูแลจากที่พักพิงแห่งนี้ แต่ผมก็อยากให้พวกเขามีบ้านด้วย บางทีผมคิดว่า ‘ถ้าพวกมันมีพลังวิเศษล่ะ?’ ผมเคยร่วมงานในเรื่อง ‘The LEGO Batman Movie’ และรู้จักตัวละคร DC เยอะมาก เรื่องนั้นค้างอยู่ในใจของผมตลอด แต่ตอนนี้ผมมีโอกาสผสมเรื่องราวของสัตว์เลี้ยงกับพลังวิเศษ นั่นน่าจะเป็นความแปลกใหม่ของภาพยนตร์ได้”

            การนำไอเดียนั้นมาต่อยอดเป็นเรื่องราวไฮคอนเซ็ปต์ จอห์นสันออกความเห็นว่า “ผมยกเครดิตให้จาเร็ด สเติร์น ผมร่วมงานกับนักเขียน / ผู้กำกับฯ มาหลายคน แต่เขาเป็นคนเดียวที่ยอมทิ้งอีโก้ตัวเอง เขาอยากสร้างและถ่ายทอดผลงานที่ดีที่สุดออกมาจริงๆ และผมคิดว่าเวลาที่เราทำงานเกี่ยวกับแอนิเมชั่น เรารู้ว่ามีโอกาสมากมายในการเขียนบทฯ และสร้างภาพแอนิเมชั่นออกมา คิดภาพตลอดว่าจะสร้างเนื้อเรื่องที่ดีขึ้น ทำให้เกิดช่องว่างทางความคิดที่ลงตัว ผมรักความสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นกับซูเปอร์เพ็ทส์ ทั้งรูปร่างหน้าตาและพลังวิเศษที่พกเขามี ผมรักพลังวิเศษที่พวกเขาได้จากบทเรียนต่างๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ ได้รู้จักพลังวิเศษของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากในเรื่องและผมคิดว่าจะส่งต่อถึงเด็กๆ และครอบครัวทั่วโลกที่จะเอาไปพูดคุยกันหลังจบเรื่องได้ด้วย”

            ผู้อำนวยการสร้างฯ แพทตี้ ฮิคส์ เล่าว่า “มันเป็นเรื่องยากในการค้นหาความแปลกใหม่ในหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ สำหรับตัวละคร DC ก็มีการสร้างออกมาหลายแบบแล้ว แต่เราจะพาไปพบกับความแปลกใหม่ เรารู้จักซูเปอร์แมนแต่เรารู้จักสุนัขของซูเปอร์แมนไหม?   ฉันคิดว่าเป็นไอเดียใหม่ที่สนุก และในเรื่องนี้เราจะได้พบกับความแปลกใหม่ของซูเปอร์ฮีโร่อย่างน่าแปลกใจ สัตว์เลี้ยงของพวกเขาเป็นแบบไหนกัน? เราได้เห็นชีวิตของซูเปอร์แมน แต่ไม่เคยเห็นในมุมสุนัขของเขา ฉันรักที่เราได้พบกับพวกเขาและพวกเขาไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ พวกเขามีพลังของตัวเองและเราจะออกไปผจญภัยพร้อมพวกเขา”

            นักแสดงที่ผู้สร้างภาพยนตร์นำมารวมตัวกันเพื่อพากย์เสียงฮีโร่ 4 ขาและวายร้ายในเรื่อง ได้แก่ วาเนสซา เบเยอร์ ผู้รับบทเจ้าหมูอ้วนพีบี ดิเอโก้ ลูน่า ผู้รับบทเจ้ากระรอกชิป นาตาชา ลีย์โอนน์ ผู้รับบทเต่าเมอร์ตันที่สายตาไม่ดี เคท แม็คคินนอน ผู้รับบทหนูตะเภาลูลู่ พร้อมด้วยหนูตะเภาที่รับเข้ามาใหม่ของลูลู่อย่างคีธและมาร์ค พากย์เสียงโดยโธมัส มิดเดิลดิตช์ และ เบ็น ชวาร์ตซ

“สิ่งสำคัญสุดในภาพยนตร์แอนิเมชั่น คือเสียงของนักแสดงต้องลงตัวกับตัวละคร เราโชคดีด้วยที่พวกเขาบังเอิญเป็นนักแสดงชื่อดัง” สเติร์นยิ้ม “เมื่อเรานึกถึงภาพคริปโต สุนัขของูเปอร์แมน เขาเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ใครจะถ่ายทอดออกมาได้ดีไปกว่าดเวย์น จอห์นสัน? หรือตอนนึกถึงภาพสุนัขอย่างเอซที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใด เควิน ฮาร์ทคือคนที่เหมาะกับบทนั้น เราพยายามคัดสรรเสียงที่เหมาะสมกับตัวละคร และเราโชคดีที่พวกเขาคือคนดัง”

“เอซเคยพบความยากลำบากและอุปสรรค ตอนแรกเขาดูจะชอบเยาะเย้ยคนอื่น เขาเป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจสำหรับฉันค่ะ” ฮิคส์เล่าเสริม “เควินเป็นคนสนุกสนานตลอดเวลา เขาสามารถถ่ายทอดความสมจริงของตัวละครได้”

สำหรับนักแสดงคนอื่น สเติร์นได้พบกับนักแสดงที่มีพรสวรรค์และมีอารมณ์ขัน โดยเล่าว่า “เรากำลังสร้างหนังคอมเมดี้ เราอยากได้คนที่เล่นนอกบทได้ ทำให้ตัวละครมีสีสัน และเป็นนักแสดงที่เคยพากย์เสียงมาก่อน”

สำหรับบางคนสเติร์นมองข้ามบุคลิกภายนอก เช่น เขาเล่าว่า “เราอาจไม่คิดว่าดิเอโก้ ลูน่าจะเล่นตลกได้ เพราะเขามักจะพากย์เสียงตัวละครที่หล่อ มีความเป็นเจ้าชาย พอได้ยินเสียงยเขาในบทกระรอก ‘ขี้กลัว’ เลยเซอร์ไพรส์และน่าทึ่งมาก”

            สำหรับฮีโร่ 2 ขาของเรื่อง จอห์น คราซินสกี้ให้เสียงพากย์คลาร์ก เคนท์ หรือฉายาซูเปอร์แมน เพื่อนซี้ของคริปโตและเป็นเจ้าของ ส่วนโอลิเย ไวล์ดให้เสียงพากย์ลูอิส เลน แฟนสาวของเขาและนักข่าว Daily Planet สมาชิกเดอะจัสติส ลีกที่ปรากฏตัและได้ยินเสียงในเรื่องมีทั้งแบทแมน ให้เสียงพากย์โดยคีนู รีฟส์ วันเดอร์วูแมน ให้เสียงพากย์โดยจามีลา จามิล อควาแมนให้เสียงพากย์โดยเจเมน เคลเมนต์ เดอะ แฟลช ให้เสียงพากย์โดยจอห์ฯ เออร์ลี่ กรีน แลนเทิร์นให้เสียงพากย์โดยแดชชา โพลานโค และไซบอร์กให้เสียงพากย์โดยดาวีด ดิกส์

            ในเรื่องยังได้ยินเสียงที่โดดเด่นคุ้นหูจากอัลเฟรด โมลิน่า, ลีน่า เฮดี้, คีธ ดาวิด, บีซี่ ฟิลลิปส์ และ แดน ฟอกเลอร์ สเติร์นเองยังช่วยพากย์เสียงบางส่วน เช่น ผู้ชายตลกที่วิ่งไปพร้อมกับพีบีช่วงที่เธอพบกับความสามารถใหม่

            จอห์นสันกล่าวสรุป “ในเรื่องมีฉากการต่อสู้และฉากที่ตื่นตาอลังการ แอนิเมชันในเรื่องมีความโดดเด่นที่มอบความรู้สึกวินเทจเล็กๆ แต่ยังมีความล้ำสมัยมาก นักแสดงของเรามีความหลากหลาย แน่นอนว่าผมมอบความสนุกสนานในเรื่อง แต่ทุกคนเหมือนกับตีโฮมรันได้หลังจากที่เพิ่งทำโฮมรันไป”

            นอกจากฉากแอ็คชั่นและการผจญภัยแล้ ภาพยนตร์ยังมีเรื่องมิตรภาพและครอบครัวที่สร้างความประทับใจ ตอกย้ำเรื่องพลังวิเศษที่แท้จริงของทุกคน ไม่จำเป็นว่าเราจะมีขามากมายขนาดไหน การเป็นตัวของตัวเองคือสิ่งสำคัญ

สัตว์ทุกตัวเก่งและตัวเล็ก

การคัดเลือกนักแสดงระดับซูเปอร์ในบทฮีโร่ + วายร้าย

คริปโต เดอะ ซูเปอร์ด็อก

คริปโต ซูเปอร์ด็อกแห่งเมืองหลวงมีความภูมิใจในตัวเองที่ได้เป็นเพื่อนรู้ใจที่มีพลังวิเศษของซูเปอร์แมน เขาบินได้และมองเห็นภาพได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ปล่อยพลังความร้อนผ่านสายตา และเป่าลมให้กลายเป็นน้ำแข็งได้ และมีการได้ยินที่ดีเป็นพิเศษเช่นเดียวกับเพื่อนซี้ 2 ขาของคริปโต แต่เหล่าสุนัขที่สนามวิ่งเล่นของสุนัขไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความพิเศษนั้น เขามีพลังมหาศาลและไม่เคยชิลกับสิ่งใด เมื่อเพื่อนซี้และสมาชิกจัสติส ลีกคนอื่นต้องการความช่วยเหลือ คริปโตได้พบกับความสามารถอันลึกลับที่ซ่อนอยู่ในตัว ในการช่วยเหลือครั้งนี้คริปโตต้องเรียนรู้การวางตัวเป็นสุนัขธรรมดา โดยได้ความร่วมมือจากเหล่าสัตว์เลี้ยงจากศูนย์พักพิงที่มีพลังของตัวเอง และการกอบกู้โลกต้องยอมให้จมูกของตัวเองสกปรกเลอะเทอะบ้าง

สเติร์นอธิบายเสริม “จากมุมมองของคริปโต ทุกอย่างดูจะไปได้สวยสำหรับชีวิตซูเปอร์แมนและชีวิตของคริปโต พวกเขาเป็นคู่หูกัน ร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น ทุกอย่างดูช่างเพอร์เฟ็กต์… จนกระทั่งซูเปอร์แมนได้พบกับลูอิส เลน เขาตกหลุมรักเธอและคริปโตเริ่มกังวลว่าจะเสียเพื่อนซี้ไป เพราะตอนนี้เขามีเพื่อนซี้ใหม่ซะแล้ว”

มิตรภาพระหว่างซูเปอร์แมนและเพื่อนซี้ของเขามีอะไรมากกว่านั้น จอห์นสันเข้าใจดีว่า “สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจและมีความโดดเด่นจนผมรักเนื้อเรื่องนี้คือเรื่องราวมิตรภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือเรื่องราวระหว่างคริปโตกับเอซ ที่รับบทโดยเควิน ฮาร์ท มันมีทั้งความไว้ใจและบทเรียนหลายอย่างที่พวกเขาจะได้เรียนรู้กันและกัน”

จอห์นสันได้พบมิตรภาพแบบนั้นในชีวิตจริงและเล่าให้ฟังว่า “มันคือความจริงใจต่อกันในมิตรภาพ ไม่ต่างจากที่ผมมีให้กับเควิน เขาคือเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงมิตรภาพที่สมจริงนั้นบนหน้าจอระหว่างคริปโตกับเอซ ซึ่งมันเกิดขึ้นหลังจอด้วยเช่นกัน ผมรักมิตรภาพที่คริปโตมีให้กับบุรุษเหล็กซูเปอร์แมนด้วยเช่นกัน”

สเติร์นเล่าว่า “ดเวย์นเป็นผู้อำนวยการสร้างฯ ในเรื่อง ตัวละครคริปโตมีบทสำคัญในเรื่องอยู่แล้ว แต่เวลาที่เราต้องพากย์เสียงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ผมคิดว่านักแสดงที่มารับบทเขาจะช่วยสร้างตัวละครนั้นขึ้นมาให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ซึ่งเขาก็ทำได้ และเราเริ่มเขียนอะไรหลายอย่างเพิ่มเติม ซึ่งมันฟังดูดีและผมคิดว่าช่วยให้ตัวละครมีความพิเศษมากขึ้นด้วย ทุกอย่างดูดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขามาร่วมงาน”

ผู้กำกับฯ ยอมรับว่าตอนแรกเขากลัวการร่วมงานกับคนดัง “ผมบอกตามตรงเลยว่ารู้สึกกังวลเรื่องการกำกับฯ ดเวย์นในช่วงแรก แต่เขาเป็นคนที่อ่อนโยน มีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้มั่นใจได้ว่าเขาจะมาถ่ายทอดเรื่องราวและตัวละครได้อย่างแน่นอน จากที่ตอนแรกผมรู้สึกกังวล เขาทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาได้ทันทีเลย”

ผู้ร่วมกำกับฯ แซม ลีไวน์ พบความคล้ายกันระหว่างนักแสดงกับบทบาทของเขาเมื่อเปรียบเทียบกัน “คริปโตมีความมั่นใจในตัวเอง ดเวย์นถ่ายทอดความมั่นใจที่มีสู่การแสดงบทคริปโต เขาต้องถ่ายทอดความรู้สึกนั้นให้กับพวกสัตว์ในศูนย์พักพิงที่ไม่เคยรู้สึกแบบนั้น และสิ่งที่คริปโตได้รับจากพวกเขาคือความหมายของมิตรภาพ คริปโตมีเพื่อนซี้ที่สุดในโลกมาตลอดชีวิต แต่เขาไม่เคยมีเพื่อนคนอื่นที่เป็นสัตว์เลย พอเขาต้องเจอกับสุนัขจริง ไม่มีการบินไปบินมา เขากลายเป็นเพื่อนของซูเปอร์แมนที่ดีกว่าเดิมจากการเปิดใจให้สัตว์ตัวอื่น”

ไม่ใช่แค่ซูเปอร์ด็อกที่ได้ร่วมแชร์พลังวิเศษจากเพื่อนซี้ แต่ผู้สร้างภาพยนตร์ได้สร้างความงดงามบางอย่างระหว่างบุรุษเหล็กและคริปโตขึ้นมาด้วยเช่นกัน ลักษณะหัวและจมูกของคริปโตจะเหมือนกับทรงของเกราะ S โดยหูที่ตกลงมายิ่งเป็นการย้ำจุดนั้น

เขาไม่ได้ภูมิใจแค่การเคียงข้างกับซูเปอร์ฮีโร่ตลอดเวลา แต่รวมถึงความคล้ายที่มีในชื่อ “บาร์ค เคนท์” ด้ย บงาครั้งคริปโตจริงจังกับการเป็นซูเปอร์เพ็ทมากเกินไป เช่น ช่วงแรกที่เขาได้พบกับเอซ สเติร์นอธิบายว่า “คริปโตกับเอพบกันตอนที่เอซหมดหวังที่จะหลบหนีจากศูนย์พักพิง แต่เขาก็มีศิลปะในการหลบหนี มีแผนที่น่าสนใจ ส่นคริปโตจะทำแต่สิ่งที่ ‘ถูกต้อง’ และพาเขากลับศูนย์พักพิง ฉะนั้นตั้งแต่แรกเริ่มทั้งคู่ร่วมหัวจมท้ายด้วยกันมา ราวกับน้ำมันและน้ำ

 “นั่นเป็นการบอกว่า” ผู้กำกับฯ เล่าต่อ “สุนัขมีความจงรักภักดี มีความรักอย่างไร้เงื่อนไข ขณะที่คริปโตรักซูเปอร์แมน เขาจะได้เรียนรู้ถึงการเปิดใจให้กับผู้อื่น รวมถึงลูอิส เอซ และสัตว์ในศูนย์พักพิงอื่นๆ ที่ร่วมทางไปกับเขา”

เอซ

เอซ จ่าฝูงผู้อาศัยศูนย์พักพิง สุนัขปากแจ๋วที่ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการวางแผนหลบหนีออกจากศูนย์พักพิงสัตว์ เขามีความแข็งแกร่ง บึกบึน ดูยากจะโค่นล้มได้ เขาใช้ความแกร่งปกปิดจุดอ่อนของตัวเอง เอซอาจดูเหมือนพร้อมที่จะลุยเดี่ยว แต่เขาพร้อมร่วมมือต่อสู้กับคนอื่น ไม่ใช่เพียงเพื่อช่วยเหลือจัสติส ลีก แต่รวมถึงการที่คริปโตจะพาทุกคนไปพบกับพื้นหญ้าที่เขียวขจีกว่าเดิมด้วย

เควิน ฮาร์ท ถ่ายทอดบุคลิกการชอบเยาะเย้ยและความขี้ระแวงจากเรื่องราวในอดีตของตัวละคร โดยเล่าว่า “เอซอยู่ในศูนย์พักพิงและนี่คือปัญหาของเขา เอซไม่อยากอยู่ที่นั่น เขาอยากหลบหนีออก เขามีอะไรที่ดีกว่านี้ต้องทำ และมีที่ที่น่าอยู่กว่านี้”

สำหรับช่วงการทลายน้ำแข็งของเอซคือ “เขาสร้างความสัมพันธ์กับสัตว์อื่นในที่พักพิงเดียวกัน” ฮาร์ทเล่าต่อ “แต่เอซเป็นหัวโจกและพูดว่า “ดูนะ เดี๋ยวฉันจะกลับมา ฉันมีบางอย่างต้องทำ ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันหนีออกไปแต่จะกลับมา”

“เอซพูดถึงทุ่งหญ้า ทุ่งหญ้าแสนสวยทางตอนนเหนือที่สัตว์วิ่งได้อย่างอิสระ พวกเขารักและปกป้องกัน” สเติร์นกล่าว “สำหรับเขาแล้วสัมผัสได้ถึงความหวัง เขากำลังโน้มน้าวคนอื่นให้เชื่อหากพวกเขาไม่ถูกเลือกรับเลี้ยงจากศูนย์พักพิง มันคือความฝันถึงสิ่งที่ดีกว่าซึ่งอยู่ภายนอก”

แม้ว่าแผนของเอซจะผิดเพี้ยนจนทำให้เขาเกิดความท้อ ฮาร์ทเล่าว่า “เอซมีความดื้อรั้น แต่ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นความน่ารักของเขาที่มีหัวใจอันยิ่งใหญ่ เขาอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้ที่อยู่รอบตัวเขา เขาเป็นทั้งผู้ปกป้อง ผู้ใส่ใจที่รู้สึกว่าเขาต้องปกป้องคนที่อยู่รอบตัว นับเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากมาก”

และการรับบทตัวละครที่มีความซับซ้อนอย่างเอซ แม้ว่าจะเป็นเพียงการพากย์เสียง เอซเล่าว่า “เราจะอยากสวมบทบาทตัวละครที่เราเล่นอย่างเต็มตัว มันไม่ใช่แค่เรื่องเสียงพากย์ แต่รวมถึงความคิดของตัวละครด้วย เอซมีปมบางอย่างที่ไม่มีใครรู้ คาดว่าเขาน่าจะเป็นสุนัขที่ไม่เคยได้รับความรัก ตอนนี้ที่ทำตัวเหมือนผู้ปกป้อง เพราะเขาคิดว่าไม่มีใครจะเป็นเจ้าของเขาอีกต่อไปแล้ว

“เมื่อเราต้องถ่ายทอดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสร้างขึ้นออกมา เราจะพบว่าตัวเองมีพัฒนาการขึ้น” ฮาร์ทเล่าต่อ “ผมถ่ายทอดบทบาทได้เพราะมีผู้กำกับฯ ที่เก่ง เขาปล่อยให้ผมได้แสดงและเพิ่มบางอย่างลงไปในตัวละคร มันช่วยส่งเสริมพัฒนาการสำหรับโปรเจ็กต์แอนิเมชั่นได้ดีมาก”

สำหรับการร่วมงานบนหน้าจอกับจอห์นสัน ฮาร์ทหัวเราะและเล่าว่า “ผมไม่อยากทำเลย ผมคิดเลยว่า ‘ไม่นะ ผมไม่อยากแบกเขาอีกแล้ว ผมเจ็บหลัง! เหมือนเป็นเสียงที่ผมต้องทำตลอดการทำงานของเผมเลย’” เขาพูดเล่นก่อนสรุปว่า “เวลาเราร่วมงานในแอนิเมชั่น เราต้องไว้ใจเพื่อนนักแสดงด้วย เพราะเราต้องอยู่ในบูธด้วยกัน เราอยากมั่นใจว่ากำลังเดินไปทางเดียวกัน ไม่ก็จะทำได้ดีกว่าเรา ผมคิดว่าเรารู้ใจกันเป็นอย่างดี รู้จังหวะกัน มันมีมุกตลกบางอย่างที่เราเล่นสดระหว่างถ่ายทอดเรื่องราวออกมา เพราะเราเคยร่วมงานกันมาแล้วเยอะมาก”

ฮิคส์เล่าถึงทั้งคู่ว่า “การจับคู่ระหว่างดเวย์นและเควินออกมาดูดีมาก ฉันคิดว่าพวกเขาถ่ายทอดตัวละครได้อย่างงดงามและสมจริงมาก”

พีบี

พีบี ผู้น่ารักและต้องการความรัก แม้ว่าหัวใจของเธอจะใหญ่กว่าพุงอันน่ารัก แต่มีสิ่งเดียวที่เธอหวั่นไหวคือครอบครัวพักพิงสัตว์ Tailhuggers … และวันเดอร์ วูแมน ซูเปอร์ฮีโร่ของเธอ! เธอเป็นทั้งเพื่อนซี้และความหวังของเพื่อนจรจัด เมื่อมีการเรียกรวมตัวเพื่อร่วมมือกับคริปโตช่วยเหลือจัสติส ลีก พีบีพร้อมทุ่มสุดตัว โดยเฉพาะตอนนี้เธอขยายสัดส่วนสูงเท่าตึกระฟ้าหรือย่อขนาดได้

วาเนสซ่า เบเยอร์ ให้เสียงพากย์หมูที่น่ารักในศูนย์พักพิง เธอเล่าว่า “พีบีอยากถูกรับเลี้ยงมาก แต่เธอพบว่ามีแต่สัตว์ตัวเล็กๆ น่ารักเท่านั้นที่ถูกเลือกไป และเธอต้องใช้พื้นที่ในการเลี้ยงเกินกว่าอพาร์ทเมนท์ในเมืองจะอนุญาตได้…”

ระหว่างที่เธอกลังฝันว่าจะมีบ้านของตัวเอง พีบียังมีความหวังอีกว่าสักวันจะได้เจอไอดอลของเธอ เบเยอร์เล่าว่า “พีบีเป็นแฟนวันเดอร์วูแมนค่ะ เธอเอาเป็นแบบอย่างและชื่นชมในความแข็งแกร่ง เมื่อเธอเริ่มมีพลังของตัวเอง เธอรู้สึกว่าเหมือนกับวันเดอร์วูแมน มองว่าตัวเองคล้ายกับวันเดอร์วูแมน เป็นเรื่องที่สร้างความตื่นเต้นให้กับเธอเลย”

เบเยอร์ตื่นเนที่จะได้พากย์เสียงที่แฝงความตลกในเรื่อง “มันเป็นความสนุกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเหล่าดีซีซูเปอร์ฮีโร่และจักรวาลดีซีค่ะ ฉันรักการรับบทพีบี เพราะเธอเป็นคนที่ใจกว้าง มองโลกแง่ดี เต็มไปด้วยความรักและความสดใส จะมีอะไรดีไปกว่านั้นอีก?”

มีหลายอย่างเหมือนวันเดอร์วูแมน ใช่มั้ย? สเติร์นเล่าว่าเขารอการบันทึกเสียงของเบเยอร์ด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่เหตุผลหนึ่งที่ชัดเจนคือ “วาเนสซ่า เบเยอร์มีความน่าทึ่ง เธอเข้ามาในชุดสีชมพูเต็มตัวทุกครั้งง เพราะเธอต้องรับบทเจ้าหมูพีบี” เขายิ้ม “เธอเป็นคนตลกมากครับ พีบีเป็นตัวละครที่น่ารักมาก เธอคอยเห็นอกเห็นใจในกลุ่ม มีความอ่อนหวาวน แต่ก็มีความวุ่นวายในใจอยู่บ้าง… แต่เธอมีความเอาใจใส่มาก ผมคิดว่าวาเนสซ่าเหมาะกับบทนั้นมาก เพราะเธอมีความอ่อนโยนและน่าทึ่ง สามารถถ่ายทอดความแปลกหลายอย่างออกมาได้”

ชิพ

ชิพ มีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่กับความง่วงในศูนย์พักพิงสัตว์ Tailhuggers ด้วยความขี้กลัวจึงรู้สึกอุ่นใจที่ปลอดภัยภายใต้กรงเหล็กอันเหน็บหนาว แต่เมื่อที่หลบภัยอันเป็นที่รักของเขาถูกโจมตี เจ้ากระรอกขี้กลัวกลับมีพลังปล่อยแสงออกจากฝ่ามือได้! ตอนนี้ฮีโร่จำเป็นต้องเอาชนะความกลัวและหาทางเพิ่มพลังเพื่อช่วยเหลือจัสติสลีก

ตัวละครนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวโปรดของสเติร์น “ผมรักชิป!” เขากล่าว “ลูกตาของเขากลิ้งไป 3 ทิศที่ต่างกันได้ ซึ่งมาจากสุนัขของผม เขาคล้ายกับนักแสดงชายมาร์ตี้ เฟลด์แมนจากเรื่อง ‘Young Frankenstein’ สำหรับการออกแบบชิป ทุกคนชอบไอเดียที่เราบอกไม่ได้ว่าเขากำลังมองดูอะไรกันแน่ เขากลัวเงาของตัวเอง ผมคิดว่าคุณอยากเห็นเขาเป็นฮีโร่มากที่สุด และการได้เห็นเขามีพลังในท้ายที่สุดเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมาก”

นักแสดงชายดิเอโก้ ลูน่ามารับบทนี้ “ผมสนุกกับการร่วมงานในหนังแอนิเมชั่น ได้พากย์เสียงตัวละครที่ทำอะไรตลกๆ และได้สนุกสนานหน้าไมค์” เขากล่าว “ชิปเป็นบทที่เล่นแล้วสนุกมาก เพราะเขามีความขัดแย้งในตัวหลายอย่าง เขามีความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ แต่ขณะเดียวกันเขาก็กลัวทุกสิ่ง เขาคิดว่าเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้ มันจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน แม้แต่ตอนที่เขามีพลังไฟฟ้าอย่างน่าทึ่ง เขาก็มีปัญหาเรื่องการควบคุมพลัง แค่การขยับตัวนิดเดียวก็สร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาล การผจญภัยของเขาไม่ใช่แค่ต้องหยุดยั้งความกลัว แต่เขาจะได้เรียนรู้การควบคุมพลังของตัวเองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่เขามี”

“ดิเอโกด้รับบทชิปได้เยี่ยมมาก” สเติร์นกล่าว “ผมคิดว่าเขาจะเซอร์ไพรส์ทุกคน เพราะเขามักจะรับบทพระเอกหรือคนที่ดูกล้าหาญ พอได้เห็นเขาในบทกระรอกขี้กลัวกลายเป็นเรื่องที่สนุกมาก” นอกจากเรื่องความสนุกสนานแล้ว ลูน่ายังชอบประเด็นสำคัญในภาพยนตร์ด้วย ซึ่งในชีวิตจริงเราอาจเรียนรู้มันได้ทุกวัน “ในหนังเราจะเห็นสัตว์ต่างๆ ทำตัวเหมือนอย่างที่เราควรจะทำ เราได้บทเรียนเรื่องการทำงานเป็นทีม การช่วยเหลือผู้อื่น การอยู่เคียงข้างเพื่อนและมีความเชื่อมั่น ซูเปอร์เพ็ทส์เหล่านี้รู้ว่ากำลังสู้เพื่อสิ่งใด อะไรถูกอะไรผิด และพวกเขายอมรับในสิ่งนั้น”

เมอร์ตัน

กระดองที่เกิดความเสียหายมานานนับสิบปีจากเหตุการณ์รถชน เมอร์ตัน พูดจาได้ฉะฉานเหมือนผ่านมีชีวิตมามาก มีความเชื่องช้าและไม่มีที่ซ่อนตัวแน่นอนต้องการพักผ่อนและประทังชีวิตด้วยใบไม้สีเขียว ด้วยสายตาที่ฟ่าฟางทำให้เธอต้องไว้วางใจผองเพื่อนผู้คอยนำทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในยามที่เธอมีพรสวรรค์วิเศษอย่างซูเปอร์สปีดกะทันหัน! …ความท้าทายตอนนี้คือต้องแน่ใจว่าเธอจะพุ่งสู่ทางที่ถูกต้องนะ

นาตาชา ลีโอนน์ ให้เสียงพากย์เต่าที่มีกระดองเหมือนรถวินเทจ เธอถ่ายทอดเสียงออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์และรู้สึกชื่นชมในความเก๋าของบท “เมอร์ตันเป็นเต่าที่มีปัญหาเรื่องการมองเห็น เธอใช้ชีวิตมานานจนกระดองมีรอยแตก ช่วงที่ผ่านมาเมอร์ตันได้สะสมประสบการณ์ไว้บนกระดองของเธอ ทั้งสติกเกอร์ รอยแตก และอะไรอีกหลายอย่าง เมอร์ตันคงเหมือนคนที่สวมเสื้อยีนส์แต่มีรอยเย็บปะหลายรอย เมอร์ตันมีสไตล์ที่เท่ จิตใจแข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ล้นเหลือ

“ใจฉันลอยไปไกลเลยตอนที่จาเร็ดชวนให้ฉันรับบทเต่าอายุ 150 ปี” เธอเล่าต่อ “ฉันตอบกลับเขาไปอย่างราบเรียบว่า ‘ฉันไม่เคยเจอข้อเสนอแบบนั้นมาก่อน’ และฉันดีใจมากค่ะ มันมีทั้งความสนุกสนานและเมอร์ตันก็น่ารักมาก ฉันได้รับบทมนุษย์มากมาย จนนี่คือโอกาสที่ฉันจะได้รับบทเป็นเต่า ฉันเริ่มเตรียมตัวโดยการขยับตัวช้าๆ”

นอกจากมุมของความตลก ลีโอนน์รู้สึกหลายอย่างคล้ายกับลูน่า เธอสนุกไปกับตัวละครเมื่อมีพลังพิเศษเพิ่มขึ้น “ขอย้ำอีกครั้งว่าเมอร์ตันคือเต่า เธอเหมือนเต่าทั่วไปเลยค่ะ เธอรักผักกะหล่ำมาก จะมีพลังวิเศษอะไรที่เต่าจะรักได้มากกว่าสิ่งอื่นได้? ความเร็วสูงไงคะ และนี่เป็นพลังความเร็วแบบชั่วพริบตา เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับเมอร์ตันเพื่อนของเรา จับตาดูดีๆ ได้เลย”

ฮิคส์ออกความเห็น “นาตาชา ลีโอนน์เป็นคนที่เก่งมาก เธอดูเหมือนผู้สูงวัยระหว่างการอัดเสียงตัวละครนี้ สามารถตีบทได้แตกกระจาย และผมคิดว่าสร้างสีสันความแปลกใหม่ให้ชีวิตของเมอร์ตัน”

Facebook Comments
ติดต่อ Maganetthailand.com
Don`t copy text!