ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ‘ดิจิทัลคอมเมิร์ซ’ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พร้อมยกระดับประสบการณ์การช้อปและตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจของแบรนด์
กรุงเทพฯ 10 กันยายน 2564 – ปฏิเสธไม่ได้ว่าการซื้อขายออนไลน์ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้แล้ว ยังทำให้แบรนด์และร้านค้าสามารถสร้างรายได้พร้อมขยายฐานลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ลาซาด้าจึงรวบรวมเทรนด์ดิจิทัลคอมเมิร์ซที่น่าจับตา พร้อมระดมความคิดจากแบรนด์แถวหน้าของภูมิภาคที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านมาบนโลกออนไลน์ ภายในงาน LazMall Brands Future Forum (BFF) 2021 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมมารินา เบย์ แซนด์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
ปัจจุบันประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 70 เปอร์เซ็นต์เข้าถึงอินเทอร์เน็ตแล้ว จึงส่งผลให้อีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างก้าวกระโดดในภูมิภาคนี้ และด้วยความมุ่งมั่นของลาซาด้าในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอีคอมเมิร์ซ พร้อมพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยี โซลูชันด้านการตลาด และโลจิสติกส์จากองค์ความรู้ที่ได้จากอาลีบาบา ลาซาด้าจึงกลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำที่ผู้คนในภูมิภาคต่างไว้วางใจ จนทำให้มีผู้ใช้งานกว่า 110 ล้านคนต่อปี
ภายใต้ธีม ‘จับตาอนาคต ดิจิทัลคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Rising to the Future: Southeast Asia’s Digital Commerce)’ คุณชุน หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จของลาซาด้าว่าสามารถสะท้อนการเติบโตอย่างน่าจับตาของตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี “ลาซาด้ามีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการทำธุรกรรมออนไลน์บนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับ LazMall ที่เป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์บนลาซาด้า ก็เติบโตอย่างรวดเร็วภายในเวลาสามปี โดยปัจจุบันมีแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 32,000 แบรนด์ นอกจากนั้น ยังมีผู้ซื้อรายใหม่บน LazMall เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน และมีมูลค่าการซื้อของเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของผู้ซื้อทั่วไปบนแพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่ผู้บริโภคมีต่อลาซาด้าและ LazMall ซึ่งเรายังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า อย่างการเปิด LazMall PREMIUM[1] ที่รวบรวมแบรนด์พรีเมียมจากทั่วภูมิภาค เช่น Coach, La Mer และ Salvatore Ferragamo มาให้ช้อปได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว”
ด้าน คุณเจมส์ ชาง หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ลูกค้าและการค้าปลีก ลาซาด้า กรุ๊ป ได้ให้คำแนะนำแบรนด์และร้านค้าว่าควรมีกลยุทธ์การขายของบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในระยะยาว “ปัจจุบันการขายสินค้าปลีกออนไลน์ในภูมิภาคมีเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ แต่คาดการณ์ว่าใน พ.ศ. 2568 มูลค่าการช้อปปิ้งออนไลน์ในภูมิภาคจะสูงถึง 172 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.8 เท่าจากปี 2563 ลาซาด้ามั่นใจว่าเราจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่นำไปสู่จุดนั้นได้ เพราะเรามีเครื่องมือและโซลูชันมากมายที่ตอบโจทย์ธุรกิจและการตลาด ซึ่งแต่ละแบรนด์และร้านค้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างง่ายดาย โดยเน้นการสร้างสรรค์คอนเทนต์และประสบการณ์ของลูกค้าให้เป็นหนึ่งเดียว และผสมผสานโปรแกรมสมาชิก (Loyalty Program) ของแบรนด์กับ LazMall เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า”
ด้วยอีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์แบบและครอบคลุมทุกมิติ ลาซาด้าสามารถสร้างสรรค์โซลูชันมากมายที่ช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับแบรนด์และร้านค้า โดยคุณเรย์มอนด์ หยาง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการแพลตฟอร์ม ลาซาด้า กรุ๊ป ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “โซลูชันที่ลาซาด้าสร้างสรรค์นั้นล้วนให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการให้แบรนด์และร้านค้าสามารถมีส่วนร่วมในการจัดการข้อมูลลูกค้าได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และยังเข้าถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้ใช้บริการ ซึ่งช่วยให้แต่ละแบรนด์สามารถออกแบบรางวัลจูงใจให้กับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม นอกจากนั้น ลาซาด้ายังสร้างสรรค์แคมเปญช้อปปิ้งออกมาหลากหลายและสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งแบรนด์และลูกค้าด้วยโซลูชันการตลาดชั้นนำของลาซาด้า เช่น การโปรโมทผ่านพาร์ทเนอร์ (Sponsored Affiliates) การโปรโมทผ่านลาซาด้า (Sponsored Discovery) การจัดวางสินค้าตามลำดับความสำคัญ และอัลกอริทึมอัจฉริยะที่ช่วยให้แต่ละแคมเปญมีสินค้าในราคาที่เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น และยังช่วยให้แบรนด์บริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม”
ภายในงานยังมีการจัดเสวนาในหัวข้อ ‘จับตาอนาคต ก้าวใหม่ของดิจิทัลคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Looking Forward: What’s Next for Southeast Asian Digital Commerce)’ ที่ดำเนินรายการโดย เอ็มมา เพเตอร์ซัน ประธานด้านโซลูชันกลยุทธ์แบรนด์ของ LazMall ระดับภูมิภาค ลาซาด้า กรุ๊ป โดยมีผู้บริหารในองค์กรชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและเคล็ดลับเกี่ยวกับการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล สำหรับเจโรม แฮมลิน หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมสำหรับอีคอมเมิร์ซ บริษัทกูเกิล มองว่าการระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปและมีตัวเลือกมากขึ้น จึงทำให้มีความคาดหวังเกี่ยวกับคุณภาพและบริการที่แบรนด์จะมอบให้จากการช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ พร้อมเสนอว่าแบรนด์ควรให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านวิดีโอมากขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้า ด้านเควิน แมคกิแกน รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำสิงคโปร์ บริษัท 3เอ็ม แนะนำให้แบรนด์ตั้งเป้าให้ชัดเจนและควรวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อยสามเดือน ซึ่งการเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริงจะช่วยสร้างความผูกพันกับแบรนด์ยิ่งขึ้น เช่น การสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่โดดเด่นและอธิบายคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจนว่าแตกต่างจากสินค้าอื่นในท้องตลาดอย่างไร ขณะที่จูเลียนา ชู รองประธานฝ่ายดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากชิเซโด้ มองว่าการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์ได้ไม่น้อย ยิ่งลาซาด้ามีฟีเจอร์ Shoppertainment ก็ยิ่งช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปให้สนุกยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทำให้ลูกค้าได้ทดลองเครื่องสำอางแบบเสมือนจริง
นอกจากนั้น ยังมีการจัดมอบรางวัล BFF AWARDS 2021 เพื่อยกย่องเก้าแบรนด์ชั้นนำบน LazMall ที่มีผลงานและนวัตกรรมยอดเยี่ยมที่สุด โดยมีผู้ได้รับรางวัลดังนี้
- รางวัลสุดยอดแบรนด์ LazMall แห่งปี: Estée Lauder
- รางวัลแบรนด์พันธมิตรยอดเยี่ยม: Samsung
- รางวัลแบรนด์ใหม่ยอดเยี่ยม: Nike
- รางวัลแบรนด์ LazMall มาแรง: Coach
- รางวัลผลิตภัณฑ์ใหม่ยอดเยี่ยม: Lancôme Advanced Génifique Youth Activating Concentrate
- รางวัลกิจกรรมการตลาดยอดเยี่ยม: Shisedo Group
- รางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม: Starbucks
- รางวัลแบรนด์พาร์ทเนอร์ดีเด่น: Synagie
- รางวัลการใช้เครื่องมือโปรโมทสินค้ายอดเยี่ยม: L’Oréal Consumer Products Division
[1] เปิดตัว LazMall PREMIUM ในประเทศไทยและมาเลเซีย หรือภายใต้ชื่อ LazMall PRESTIGE ในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์