สกสว. บพข. ททท. จับมือสมาคม ATTA และอีก 8 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยด้วยงานวิจัยด้านการท่องเที่ยว มุ่งสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูง เน้นความยั่งยืนและเพิ่มรายได้ของประเทศ
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย (PGAT) สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) (TICA) สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ญี่ปุ่น (T-JTA) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) และสมาคมโรงแรมไทย (THA) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยด้วยงานวิจัยการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ทั้งนี้เพื่อยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) อย่างยั่งยืนบนฐานทรัพยากรของประเทศ และสอดคล้องตามแผนวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2566-2570 (ววน.) ในด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตามแนวทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ในด้านการท่องเที่ยวให้เป็นระบบเศรษฐกิจมูลค่าสูง มีความยั่งยืนและเพิ่มรายได้ของประเทศ ผ่านการทำงานและขับเคลื่อนร่วมกันตามบทบาทภารกิจของแต่ละหน่วยงาน โดยใช้กลไกการสนับสนุนการวิจัยตามความต้องการของภาคเอกชนและเกิดผลกระทบในวงกว้าง
รองศาสตราจารย์ ดร. ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สกสว.ในฐานะผู้บริหารแผนงาน ววน.และจัดสรรงบประมาณการวิจัย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ จึงได้บรรจุแผนงานสำคัญ ภายใต้แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ.2566-2570 โดยมีการท่องเที่ยวเป็นหมุดหมายสำคัญของประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 ที่มีจุดมุ่งเน้นให้แผนงานวิจัยการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นระบบเศรษฐกิจมูลค่าสูง มีความยั่งยืนและเพิ่มรายได้ของประเทศ
รองศาสตราจารย์ ดร.สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการ บพข. กล่าวว่า หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือ บพข. มีหน้าที่จัดสรรทุนวิจัย และสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ โดยหนึ่งในภาคบริการที่สำคัญคือ ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ
บพข.มีแผนงานการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่พร้อมยกระดับการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ทั้งในการท่องเที่ยวบนฐานมรดกทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมทั้งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ โดยเน้นการทำงานเชิงบูรณาการร่วมกันระหว่างภาควิชาการกับผู้ประกอบการ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยด้วยการยกระดับศักยภาพ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันสู่การสร้างเศรษฐกิจมูลค่าสูง สร้างความยั่งยืน และสร้างรายได้ให้กับประเทศต่อไป
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยด้วยงานวิจัยด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ถือว่าเป็นกรอบความร่วมมือสำคัญของหน่วยงานที่มีการบูรณาการร่วมกันที่จะกำหนดกรอบวิจัย โดย ททท. มีความพร้อมในการสนับสนุนทั้งด้านตลาด ด้านบุคลากร รวมทั้งเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรมตามความมุ่งหมายความตั้งใจของทุกฝ่ายที่ต้องการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไปสู่มิติใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นบทบาทสำคัญภายหลังสถานการณ์โควิด-19 โดย ททท.พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA รวมทั้งอีก 8 สมาคมด้านท่องเที่ยวที่ร่วมลงนามในวันนี้ รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมกับ สกสว. และ บพข. สร้างงานวิจัยที่มุ่งเน้นการบูรณาการระหว่างภาควิชาการ และภาคผู้ประกอบการเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังโรคระบาดโควิด-19 กว่าสองปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันให้แก่องค์กรภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเชื่อมั่นว่าภาคผู้ประกอบการจะได้รับความรู้เชิงวิชาการจากการทำงานร่วมกันครั้งนี้ มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ภายในงานมีการเปิดเวทีเสวนา ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยงานวิจัยการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข – สกสว. กองทุนส่งเสริม ววน. ในวงเสวนาได้พูดคุยถึงความสำเร็จของการนำผลการวิจัยไปใช้ต่อยอดและขยายผลในหลากหลายมิติ ประกอบด้วย 1.เจ็ดลุ่มน้ำเสน่ห์สำรับไทย ไม่ว่าใครก็หลงรัก: การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร โดย ดร.สัญชัย เกียรติทรงชัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย 2.Trip เส้นทางรถไฟ สายประวัติศาสตร์ Lanna Modernization เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง โดย ผศ.ดร.ณัฐนันท์ ฐิติยาปราโมทย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
สุคนธจิตศาสตร์: อัตลักษณ์สปาล้านนา ยกระดับคุณค่าสู่สากล โดย ศ.ดร.อารีวรรณ กลั่นกลิ่น สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ 4.แบ่งบันประสบการณ์ กับการทำงานเครือข่าย มุ่งเป้าสู่หมุดหมายการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยนายนิพัทธ์พงษ์ ชวนชื่น อุปนายกสมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) 5.ต่อยอดและขยายผลจากคุณค่าการท่องเที่ยวโดยชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต สู่การเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย โดยนายสมยศ ปาทาน ประธานวิสาหกิจชุมชนเมืองเก่าภูเก็ต และ 6.ปัจจัยความสำเร็จในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยด้วยงานวิจัยการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดย ดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สกสว.และประธานอนุกรรมการกลุ่มการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. ผู้ดำเนินการเสวนา กล่าวว่า ผลจากการดำเนินงานวิจัยที่ สกสว.และบพข. ได้ดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายและชุมชนพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งแผนงานการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ประกอบด้วย การท่องเที่ยวบนฐานมรดกทางธรรมชาติ/เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม/คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางการท่องเที่ยว รวมทั้ง แผนงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สามารถหนุนเสริมการบริหารจัดการของผู้ประกอบการเพื่อยกระดับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการจากฐานงานวิจัยไปสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูง เน้นความยั่งยืน เพิ่มรายได้ตามเป้าหมายของประเทศ ตามนโยบาย สกสว.ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนภูมิภาคทั่วไทยด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม